คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3985/2528

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยนำพยานเข้าสืบก่อนแล้ว แถลงหมดพยานศาลชั้นต้นเห็นว่า คดีพอวินิจฉัยได้ จึงงดสืบพยานโจทก์ และนัดฟังคำพิพากษาในวันรุ่งขึ้นคำสั่งเช่นนี้เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา ทนายจำเลยรับทราบ คำสั่งในวันนั้น และยังมีโอกาสโต้แย้งคำสั่งได้ก่อนฟังคำพิพากษา แต่ก็มิได้โต้แย้งคำสั่งของศาลชั้นต้นจำเลยจึงไม่มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่ง ดังกล่าวได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226 (2)
จำเลยไม่มีสิทธิอุทธรณ์ แม้ศาลอุทธรณ์จะวินิจฉัยให้ก็เป็นการมิชอบ ถือว่าเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์ศาลฎีกา ไม่รับวินิจฉัยให้
ตามคำฟ้องอุทธรณ์ของจำเลยมิได้ยกข้อเท็จจริงขึ้นโต้เถียงว่าจำเลยเช่าที่พิพาทจากโจทก์ ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าคดีไม่อาจรับฟังได้ว่าจำเลยเช่าที่พิพาทจึงเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น ที่โต้เถียงกันในชั้นอุทธรณ์ถือได้ว่าเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้ว ในศาลอุทธรณ์เช่นเดียวกันศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยรื้อโรงเรือนออกไปจากที่ดินของโจทก์ ห้ามจำเลยและบริวารเกี่ยวข้อง ฯลฯ
จำเลยให้การต่อสู้คดี
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้จำเลยนำสืบก่อน จำเลยนำพยานเข้าสืบ ๓ ปากแล้วแถลงหมดพยาน ศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีพอวินิจฉัยได้ จึงให้งดสืบพยานโจทก์และนัดฟังคำพิพากษาวันรุ่งขึ้น
ศาลชั้นต้นพิพากษาขับไล่จำเลยและบริวารให้รื้อถอนโรงเรือนออกไปจากที่ดินพิพาทห้ามเกี่ยวข้องต่อไป
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยฎีกาว่าศาลชั้นต้นงดสืบพยานโจทก์ทำให้จำเลยเสียเปรียบในการต่อสู้คดี เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่น่าจะบกพร่อง นั้นเห็นว่า คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้งดสืบพยานโจทก์และนัดฟังคำพิพากษาในวันรุ่งขึ้นนั้น เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา ทนายจำเลยลงลายมือชื่อในรายงานกระบวนพิจารณารับทราบคำสั่งแล้ว แต่ไม่ได้โต้แย้งคำสั่งนั้นไว้ ในวันรุ่งขึ้นจำเลยมีโอกาสที่จะโต้แย้งคำสั่งของศาลได้ก่อนฟังคำพิพากษา แต่จำเลยก็ไม่ได้โต้แย้งคำสั่งไว้ จำเลยจึงไม่มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๒๖ (๒) ที่ศาลอุทธรณ์รับวินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยนั้น เป็นการมิชอบ ถือว่าเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
ที่จำเลยฎีกาว่า จำเลยเช่าที่พิพาทจากโจทก์ แม้จะมิได้ทำหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้รับผิดชอบ แต่เป็นที่ดินเพื่อเกษตรกรรมได้รับการคุ้มครอง นั้นเห็นว่า ตามคำฟ้องอุทธรณ์ของจำเลยมิได้ยกข้อเท็จจริงขึ้นโต้เถียงว่า จำเลยเช่าที่พิพาทจากโจทก์ ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าคดีไม่อาจที่จะรับฟังได้ว่า จำเลยเช่าที่พิพาทจากโจทก์ จึงเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นที่โต้เถียงกันในชั้นอุทธรณ์จึงถือได้ว่าเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์เช่นเดียวกันศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
พิพากษายกฎีกาของจำเลย

Share