แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่จะผิดฐานรับของโจรนั้นจะต้องปรากฎว่าจำเลยได้รับทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำผิดนั้นไว้โดยอาการอันทุจจริต มิฉะนั้นยังไม่พอฟังจะลงโทษจำเลยได้
ย่อยาว
ได้ความว่าขันของเจ้าทรัพย์หายไป ๒ ใบ เจ้าทรัพย์สงสัยว่า ต.จำเลยเป็นผู้ลักเอาไป จึงไปแจ้งต่อ พ.จำเลยซึ่งเป็นผู้แทนผู้ใหญ่บ้าน พ.จึงเรียก ต.มาสอบถาม ต.ปฏิเสธ ต่อมา พ.จำเลยได้บอกเจ้าทรัพย์ว่า จำเลยรู้แล้วว่าวันนั้นตกอยู่ที่ใคร แต่เขาจะเอาค่าไถ่บ้างจะยอมหรือไม่ เจ้าทรัพย์บอกว่า “เอา” พ.จำเลยว่าจะไปสืบดูก่อน ในวันนั้นเองเจ้าทรัพย์ก็ไปหา พ.จำเลย ๆ ว่า เขาจะเอาค่าไถ่ ๑๕ บาท เจ้าทรัพย์ว่าขอลดลงบ้าง พ.จำเลยว่า ๑๒ บาทเห็นจะได้ แล้วเจ้าทรัพย์ก็เอาเงิน ๑๒ บาทให้พ.จำเลย ๆ ว่าไม่สบายจึงให้ม.จำเลยซึ่งเป็นภรรยาไปไถ่มา ในวันนั้นเองเจ้าทรัพย์ก็ไปที่บ้านพ. จำเลย ๆ ก็หยิบขันมาให้เจ้าทรัพย์
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่ขันตกมาอยู่ที่ พ.แล ม.จำเลยก็โดยเจ้าทรัพย์ร้องขอให้จำเลยไปไถ่มาให้ มิใช่จำเลยได้รับขันนี้ไว้โดยอาการอันทุจจริตอันจะเป็นผิดตามความหมายในบทบัญญัติมาตรา ๓๒๑ พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ ให้ยกฟ้องโจทก์