คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3943/2529

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

มีระเบียบขององค์การบริหารส่วนจังหวัดว่าการขุดดินลูกรังจะต้องขออนุญาตต่อนายอำเภอและต้องชำระค่าตอบแทนการอนุญาตจำเลยทำสัญญารับจ้างขุดขนดินลูกรังให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัด โดยผู้ว่าราชการจังหวัดลงนามเป็นผู้ว่าจ้างและจำเลยกรอกข้อความ ยินยอมชำระค่าตอบแทนการอนุญาตตามมาตรา 9 แห่ง ประมวลกฎหมายที่ดินไว้ท้ายประกวดราคาทั้งผู้ที่ทำสัญญารับจ้างเช่นนี้ ในครั้งก่อนๆไม่เคยขออนุญาต การที่จำเลยสั่งให้คนงานไปขุด และขนลูกรังไปกองไว้ตามสัญญาโดยมิได้ขออนุญาตต่อนายอำเภอท้องที่ ตามระเบียบ โดยเข้าใจว่าการที่จำเลยเข้าทำสัญญารับจ้างขุดและ ขนลูกรัง ให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัดเป็นการได้รับอนุญาตให้ขุดลูกรังได้โดยไม่จำต้องขออนุญาตอีก กรณีเป็นเรื่องจำเลยสำคัญผิดในข้อเท็จจริงจำเลยจึงไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 62 วรรคแรก

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้รถแทรกเตอร์และรถยนต์บรรทุกขุดขนดินลูกรังในบริเวณที่ดินของรัฐอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะและเป็นที่ป่า ทำให้เสื่อมสภาพที่ดินในบริเวณที่รัฐมนตรีได้ประกาศหวงห้าม และเป็นการทำลายป่า โดยมิได้รับอนุญาต ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9, 108 ทวิ พระราชบัญญัติป่าไม้พ.ศ. 2484 มาตรา 54, 72 ตรี, 74 ทวิ ที่แก้ไขแล้ว ริบรถแทรกเตอร์และรถยนต์บรรทุกของกลาง

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้อง จำคุก 1 ปีและปรับ 40,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 3 ปี ริบของกลาง

โจทก์ จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งลงชื่อในคำพิพากษาศาลอุทธรณ์อนุญาตให้ฎีกาในข้อเท็จจริงได้

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจิรงว่า จำเลยในฐานะหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างหุ้นส่วนจำกัดศรชัยวัฒนาก่อสร้าง ทำสัญญารับจ้างขุดขนดินลูกรังให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดลงนามเป็นผู้ว่าจ้างจำเลยกรอกข้อความไว้ท้ายใบประกวดราคาก่อนทำสัญญาว่า ยินยอมจะชำระค่าตอบแทนการอนุญาตตามมาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายที่ดินไว้ด้วย ผู้ที่ประมูลได้และเข้าทำสัญญารับจ้างขุดและขนลูกรังให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิในครั้งก่อน ๆ ไม่เคยต้องขออนุญาต การที่จำเลยได้สั่งให้คนงานไปขุดและขนลูกรังจากที่เกิดเหตุนำไปกองไว้ตามสัญญาก็เนื่องจากจำเลยเข้าใจว่า การที่จำเลยเข้าทำสัญญารับจ้างขุดและขนให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมินั้น เป็นการได้รับอนุญาตให้ขุดลูกรังได้แล้ว ไม่จำต้องขออนุญาตอีกแล้ววินิจฉัยข้อกฎหมายว่า กรณีเป็นเรื่องที่จำเลยสำคัญผิดในข้อเท็จจริงโดยเข้าใจว่าได้รับอนุญาตแล้ว เมื่อกรณีเป็นเรื่องสำคัญผิดเช่นนี้ตามมาตรา 62 วรรคแรก แห่งประมวลกฎหมายอาญาบัญญัติว่า ผู้กระทำย่อมไม่มีความผิด ฉะนั้นจำเลยจึงไม่มีความผิดดังโจทก์ฟ้อง ไม่จำต้องวินิจฉัยฎีกาข้ออื่นอีกต่อไป ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษจำเลยมานั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย

พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์ คืนรถแทรกเตอร์และรถยนต์บรรทุกของกลางแก่เจ้าของ

Share