คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3934/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำร้องขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยที่ 3 อ้างเหตุว่าจำเลยที่ 3 รับซื้อรถคันพิพาทจากจำเลยที่ 1 ซึ่งมีหลักฐานทางทะเบียนถูกต้องและเป็นผู้ครอบครองรถในขณะที่นำมาขายในตลาดนัดซื้อขายแลกเปลี่ยนและมีการซื้อขายมาหลายทอด จำเลยที่ 3 รับซื้อมาโดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริต เป็นการซื้อในท้องตลาดจากพ่อค้าผู้ขายของชนิดนั้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1332 จำเลยที่ 3 จึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ ดังนี้ ถือได้ว่าจำเลยที่ 3ได้กล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลชั้นต้น ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 วรรคสองแล้ว
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยคำร้องของจำเลยที่ 3 ในเรื่องเหตุที่ได้ขาดนัดโดยมิได้ทำการไต่สวนว่าจำเลยที่ 3 ลงวันนัดสืบพยานโจทก์ผิดพลาดไปตามคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ของจำเลยที่ 3หรือไม่ ย่อมเป็นการไม่ชอบ.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 ยืมรถยนต์ 1 คันไปจากโจทก์แล้วได้ปลอมบัตรประจำตัวประชาชนว่าเป็นโจทก์แจ้งความว่าสมุดคู่มือการจดทะเบียนรถยนต์หายไป ต่อมาจำเลยที่ 1 โอนกรรมสิทธิ์เปลี่ยนชื่อเป็นของจำเลยที่ 1 แล้วนำไปขายให้จำเลยที่ 3 จำเลยที่ 3ขายต่อให้จำเลยที่ 2 โจทก์ดำเนินคดีอาญาแก่จำเลยที่ 1 และได้ทวงถามจำเลยทั้งสามนำรถยนต์มาคืนโจทก์แล้ว แต่จำเลยทั้งสามไม่ยอมคืน ขอให้จำเลยทั้งสามร่วมกันส่งมอบรถยนต์คืนให้แก่โจทก์ หากไม่ส่งคืนให้ร่วมกันชดใช้ราคา 93,000 บาทแก่โจทก์
จำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การ
จำเลยที่ 2 ให้การปฏิเสธความรับผิด ต่อมาโจทก์ขอถอนฟ้องจำเลยที่ 2 ศาลชั้นต้นอนุญาต
จำเลยที่ 3 ให้การว่า จำเลยที่ 3 เป็นผู้ค้ำรถยนต์เก่าในตลาดตลาดนัดรถยนต์จำเลยที่ 1 นำรถยนต์คันพิพาทมาเสนอขายให้จำเลยที่ 3 ณ ตลาดนัดซื้อขายรถยนต์ดังกล่าวโดยมีหลักฐานการจดทะเบียนทางราชการถูกต้อง ต่อมาจำเลยที่ 3 ขายให้แก่จำเลยที่ 2แล้วจำเลยที่ 2 ขายและส่งมอบรถยนต์แก่ผู้อื่นซึ่งเป็นพ่อค้ารับซื้อขายแลกเปลี่ยนรถยนต์เก่า ต่อมาจำเลยที่ 2 ซื้อรถคันพิพาทกลับคืนมาแล้วโอนขายและส่งมอบแก่จำเลยที่ 3 ณ ตลาดนัดรถยนต์อีกครั้งหนึ่ง จำเลยที่ 3 ซื้อมาโดยมีค่าตอบแทนและสุจริตในท้องตลดาหรือพ่อค้าซึ่งซื้อขายแลกเปลี่ยนรถยนต์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1332 จึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์เว้นแต่โจทก์จะชดใช้ราคาแก่จำเลยที่ 3 ขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ 1 และที่ 3 ขาดนัดพิจารณา ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าจำเลยที่ 3 รับซื้อรถยนต์คันพิพาทจากจำเลยที่ 1 โดยสุจริต แต่จำเลยที่ 1 ไม่ใช่พ่อค้าขายรถยนต์ในท้องตลาด จำเลยที่ 3 จึงไม่ได้รับความคุ้มครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1332 พิพากษาให้จำเลยที่ 1 และที่ 3 ร่วมกันคืนรถคันพิพาทให้โจทก์ หากคืนไม่ได้ให้ร่วมกันใช้ราคา 93,000 บาท
จำเลยที่ 3 ยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่
โจทก์ยื่นคำร้องคัดค้าน ขอให้ยกคำร้องของจำเลยที่ 3
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า จำเลยที่ 3 ทราบวันนัดสืบพยานโจทก์แล้วแต่ไม่มาศาลตามนัดเพราะจำเลยที่ 3 ลงวันนัดผิดเอง ไม่มีเหตุสมควรที่จะพิจารณาคดีใหม่ ให้ยกคำร้องของจำเลยที่ 3
จำเลยที่ 3 อุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์ เห็นว่าตามคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ของจำเลยที่ 3 ไม่มีข้อความตอนใดคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลชั้นต้น ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 วรรคสอง พิพากษายืน
จำเลยที่ 3 ฎีกา
ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว คดีมีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยว่า คำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ของจำเลยที่ 3 ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 วรรคสองหรือไม่ พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า มาตรา 208 ดังกล่าววรรคสองบัญญัติว่า คำขอให้พิจารณาคดีใหม่ให้กล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งเหตุที่คู่ความได้ขาดนัดและข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลฯลฯ สำหรับในข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลนั้น ปรากฏตามคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ของจำเลยที่ 3 จำเลยที่ 3 ได้คัดค้านว่าจำเลยที่ 3 รับซื้อรถยนต์คันพิพาทจากจำเลยที่ 1 ซึ่งมีหลักฐานทางทะเบียนของทางราชการแสดงว่า จำเลยที่ 1 ได้รับโอนกรรมสิทธิ์มาโดยถูกต้องและเป็นผู้ครอบครองรถยนต์ในขณะที่จำเลยที่ 1 นำมาขายในตลาดนัดซื้อขายแลกเปลี่ยนรถยนต์ซึ่งมีการซื้อขายต่อกันมาหลายทอด จำเลยที่ 3 รับซื้อรถยนต์คันพิพาทมาโดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริตเป็นการซื้อในท้องตลาดจากพ่อค้าผู้ขายของชนิดนั้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1332 จำเลยที่ 3 จึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ ดังนี้ ถือได้ว่าจำเลยที่ 3 ได้กล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลชั้นต้น ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 วรรคสองแล้ว และการที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยคำร้องของจำเลยที่ 3 ในเรื่องเหตุที่ได้ขาดนัดโดยมิได้ทำการไต่สวนว่าจำเลยที่ 3 ลงวันนัดสืบพยานโจทก์ผิดพลาดไปตามคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ของจำเลยที่ 3 หรือไม่นั้นศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยที่ 3ฟังขึ้น
พิพากษายกคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์และคำสั่งของศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นทำการไต่สวนคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ของจำเลยที่ 3 แล้วมีคำสั่งใหม่ตามรูปคดี.

Share