คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 391/2527

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ในคดียักยอก ข้อความที่ว่า นำความมาแจ้งเพื่อชะลอการดำเนินคดีไว้ก่อน ถ้าหากจำเลยไม่ชำระเงินจะได้มาแจ้งดำเนินคดีต่อไปอีก จึงนำความมาแจ้งไว้เป็นหลักฐานดังนี้ ถือไม่ได้ว่าเป็นการร้องทุกข์ตามกฎหมาย เพราะขณะแจ้งยังไม่ประสงค์จะให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดี ครั้นพ้นกำหนด 3 เดือน นับแต่รู้เรื่องความผิด และรู้ตัวผู้กระทำผิด ผู้เสียหายจึงได้มาแจ้งความให้ดำเนินคดีกับจำเลยคดีโจทก์จึงขาดอายุความฟ้องร้องตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 96

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ตามคำฟ้องโจทก์ว่านางศรีสง่าเทียมทัด ประธานกรรมการและที่ประชุมใหญ่ของร้านสหกรณ์หัวหิน จำกัด ได้ทราบถึงการยักยอกคดีนี้เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2521 และได้จัดการไปร้องทุกข์เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2521 ปรากฏตามเอกสารหมาย จ.8 ซึ่งมีข้อความว่า “นำความมาแจ้งเพื่อชะลอการดำเนินคดีไว้ก่อน ถ้าหากจำเลยไม่ชำระเงินจะได้มาแจ้งดำเนินคดีต่อไปอีก จึงนำความมาแจ้งไว้เป็นหลักฐาน” ศาลฎีกาได้พิเคราะห์แล้วเห็นว่า การแจ้งดังกล่าวนี้ถือไม่ได้ว่าเป็นการร้องทุกข์ตามกฎหมาย เพราะขณะแจ้งผู้แจ้งยังไม่ประสงค์จะให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดี ครั้นพ้นกำหนด 3 เดือน นับตั้งแต่รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำผิดตามที่บรรยายฟ้องไว้แล้ว ผู้เสียหายจึงได้มาแจ้งความให้ดำเนินคดีกับจำเลยตามเอกสารหมาย จ.11 คดีโจทก์จึงขาดอายุความฟ้องร้องตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 96 ดังศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมา ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น”

พิพากษายืน

Share