คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2001/2522

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นยกคำร้องอุทธรณ์อย่างคนอนาถาของจำเลย จำเลยยื่นคำร้องให้ศาลอุทธรณ์อนุญาตให้จำเลยอุทธรณ์อย่างคนอนาถา คำร้องนี้ต้องให้ศาลอุทธรณ์มีคำสั่ง ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องนี้เสียเอง จำเลยอุทธรณ์และโจทก์ฎีกาได้ตามวิธีธรรมดา

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องจากโจทก์ฟ้องว่า จำเลยจงใจละเว้นไม่ปฏิบัติตามระเบียบแบบแผนของทางราชการที่ได้วางไว้ หรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงเป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหาย 1,500,162 บาท 93 สตางค์ ขอให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย จำเลยให้การ ว่าจำเลยปฏิบัติหน้าที่ถูกต้องตามระเบียบของทางราชการแล้ว เหตุเกิดเพราะเจ้าพนักงานของโจทก์ประมาทเลินเล่อและทุจริตต่อหน้าที่ ขอให้ยกฟ้อง ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 750,031บาท 46 สตางค์ พร้อมดอกเบี้ยและค่าฤชาธรรมเนียม

โจทก์และจำเลยอุทธรณ์ โดยจำเลยยื่นคำร้องขอฟ้องอุทธรณ์อย่างคนอนาถา

ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องขอฟ้องอุทธรณ์อย่างคนอนาถาของจำเลยแล้วมีคำสั่งลงวันที่ 25 สิงหาคม 2521 ว่า ข้อนำสืบของจำเลยยังไม่เป็นที่พอใจศาลว่า จำเลยไม่สามารถเสียค่าธรรมเนียมได้ และคดีไม่มีเหตุอันสมควรที่จะอุทธรณ์ ให้ยกคำร้อง

จำเลยยื่นคำร้องลงวันที่ 1 กันยายน 2521 ขอให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาอนุญาตให้จำเลยอุทธรณ์อย่างคนอนาถา ศาลชั้นต้นสั่งว่าไม่มีเหตุจะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม ให้ยกคำร้อง

วันที่ 6 กันยายน 2521 จำเลยอุทธรณ์ว่า คำสั่งของศาลชั้นต้นที่สั่งยกคำร้องลงวันที่ 1 กันยายน 2521 นั้นไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา เพราะเมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องขอฟ้องอุทธรณ์อย่างคนอนาถาของจำเลยแล้วจำเลยได้ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไปยังศาลอุทธรณ์ภายในกำหนด 7 วันนับแต่วันที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง อำนาจในการสั่งคำร้องจึงเป็นของศาลอุทธรณ์ ไม่ใช่อำนาจของศาลชั้นต้น ขอให้พิจารณารับอุทธรณ์และอนุญาตให้จำเลยอุทธรณ์อย่างคนอนาถาด้วย

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า พอถือได้ว่าคำร้องของจำเลยลงวันที่ 1 กันยายน2521 เป็นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นต่อศาลอุทธรณ์ ชอบที่ศาลชั้นต้นจะส่งคำร้องไปให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาสั่ง การที่ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องของจำเลยจึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 วรรคสุดท้ายพิพากษากลับคำสั่งของศาลชั้นต้นที่สั่งในคำร้องของจำเลย ฉบับลงวันที่ 1กันยายน 2521 ให้รับคำร้องของจำเลยฉบับดังกล่าวไว้และให้ศาลชั้นต้นดำเนินการต่อไป ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ในชั้นนี้ให้เป็นพับ

โจทก์ฎีกาว่า คำร้องขอฟ้องอุทธรณ์อย่างคนอนาถาของจำเลยฉบับลงวันที่ 1 กันยายน 2521 มีลักษณะเป็นคำร้องให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่ง ไม่มีลักษณะเป็นคำฟ้องอุทธรณ์ เพราะแบบพิมพ์ที่จำเลยใช้เป็นแบบพิมพ์คำร้องข้อความในคำร้องไม่ได้ระบุว่าเป็นอุทธรณ์คำสั่งหรือคำพิพากษาของศาลใดอ่านเมื่อใด ไม่ได้โต้แย้งคำสั่งของศาลแพ่งลงวันที่ 25 สิงหาคม 2521 และไม่มีคำขอให้ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ กลับ ยกคำสั่งของศาลแพ่ง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 242 แต่อย่างใด

ศาลฎีกาตรวจสำนวนและประชุมปรึกษาแล้ว กรณีของจำเลยเป็นเรื่องศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำขอฟ้องอุทธรณ์อย่างคนอนาถาของจำเลย จำเลยจึงย่อมอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นไปยังศาลอุทธรณ์ได้ โดยยื่นคำขอเป็นคำร้องต่อศาลชั้นต้นภายในกำหนด 7 วัน นับแต่วันมีคำสั่ง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 วรรคสุดท้าย ซึ่งจำเลยก็ได้ยื่นคำขอเป็นคำร้องต่อศาลชั้นต้นเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2521 ภายในกำหนด 7 วัน นั้นแล้วเพียงแต่จำเลยไม่ได้ระบุในคำร้องให้ชัดว่าเป็นอุทธรณ์คำสั่งเท่านั้น ซึ่งไม่ใช่ข้อสารสำคัญ ส่วนที่จำเลยกล่าวในคำร้องตอนต้นว่า จำเลยใคร่ขอประทานกราบเรียนต่อศาลอุทธรณ์ดังต่อไปนี้ แล้วจำเลยบรรยายรายละเอียดถึงเหตุอันควรที่จำเลยจะอุทธรณ์ และเหตุแห่งความยากจนของจำเลยแล้วสรุปตอนท้ายว่า ขอประทานกราบเรียนขอความกรุณาต่อศาลได้โปรดพิจารณาอนุญาตให้จำเลยได้ฟ้องอุทธรณ์อย่างคนอนาถานั้น ฟังได้ว่าจำเลยได้โต้แย้งและขอให้ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับคำสั่งศาลชั้นต้น ชอบตามกฎหมายแล้วศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ศาลชั้นต้นรับคำร้องของจำเลย ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น

พิพากษายืน ค่าทนายความชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share