แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยขอเลื่อนการสืบพยานจำเลยมาแล้ว 4 ครั้ง จนศาลมีคำสั่งกำชับว่านัดหน้าจะไม่ยอมให้เลื่อนคดีอีกไม่ว่าด้วยกรณีใด ๆ ครั้นถึงวันนัดตามที่เลื่อนมาทนายจำเลยกลับยื่นคำร้องขอถอนตัวจากการเป็นทนายจำเลยและจำเลยก็ไม่มาศาลตามพฤติการณ์เห็นได้ว่าจำเลยมีเจตนาประวิงคดีให้ชักช้า ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานจำเลยโดยถือว่าจำเลยไม่มีพยานมาสืบชอบแล้ว
ในวันนัดสืบพยานจำเลย. จำเลยและทนายจำเลยมิได้มาศาล เพียงแต่ทนายจำเลยมอบฉันทะให้เสมียนทนายนำคำร้องขอถอนตัวจากการเป็นทนายจำเลยมายื่นโดยมิได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีแต่ประการใด แม้คำร้องของทนายจำเลยที่ขอถอนตัวนั้นเท่ากับขอเลื่อนคดีอยู่ในตัว. แต่ตราบใดที่ศาลยังมิได้สั่งอนุญาตให้ถอนตัว ทนายจำเลยก็ยังมีฐานะเป็นคู่ความอยู่ ศาลย่อมมีอำนาจที่จะพิเคราะห์สั่งเกี่ยวกับการพิจารณาคดีได้ว่าสมควรจะให้เลื่อนไปหรือไม่
เมื่อจำเลยแต่งตั้งทนายความให้ว่าต่างและดำเนินกระบวนพิจารณาแทนตน ก็จะต้องรับผิดชอบในการกระทำของทนายความที่ตนแต่งตั้ง จำเลยจะอ้างว่าการที่ทนายจำเลยขอถอนตัวมิใช่ความผิดของจำเลยและจำเลยไม่ทราบล่วงหน้า ชอบที่ศาลจะให้สืบพยานจำเลยต่อไป หาได้ไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเช่าที่ดินและอาคารของโจทก์โดยไม่มีกำหนดเวลา ต่อมาโจทก์จะขายที่ดินและอาคารดังกล่าว จึงได้บอกเลิกสัญญาเช่าแก่จำเลยให้จำเลยขนย้ายออกไป จำเลยไม่ยอมออก ขอให้พิพากษาขับไล่จำเลยและบริวารออกไปและใช้ค่าเช่าที่ค้างกับค่าเสียหายแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า ได้ทำสัญญาเช่ากับโจทก์จริง แต่ที่ดินและอาคารพิพาทไม่ใช่ของโจทก์ โจทก์ไม่เคยบอกเลิกสัญญาเช่าแก่จำเลย ทั้งไม่ได้บอกกล่าวเรื่องจะขายที่ดินและอาคารพิพาทให้จำเลยทราบตามเงื่อนไขในสัญญาเช่า ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์เสร็จแล้ว จำเลยขอเลื่อนสืบพยานจำเลยมาหลายครั้ง ครั้งสุดท้ายทนายจำเลยขอถอนตัว ศาลเห็นว่าจำเลยจงใจประวิงคดี ถือได้ว่าจำเลยไม่มีพยานมาสืบ จึงให้งดสืบพยานจำเลยแล้วพิพากษาให้ขับไล่จำเลยกับบริวาร ให้จำเลยชำระค่าเช่าที่ค้างกับค่าเสียหายแก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์ว่า การที่ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานจำเลยเป็นการไม่ชอบ
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เห็นว่าในวันนัดสืบพยานจำเลย จำเลยและทนายจำเลย มิได้มาศาล เพียงแต่ทนายจำเลยมอบฉันทะให้เสมียนทนายนำคำร้องขอถอนตัวจากการเป็นทนายจำเลยมายื่นโดยมิได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีแต่ประการใด แม้คำร้องของทนายจำเลยที่ขอถอนตัวนั้นเท่ากับขอเลื่อนคดีอยู่ในตัว แต่ตราบใดที่ศาลยังมิได้สั่งอนุญาตให้ถอนตัว ทนายจำเลยก็ยังอยู่ในฐานะเป็นคู่ความอยู่ ศาลย่อมมีอำนาจที่จะพิเคราะห์สั่งเกี่ยวกับการพิจารณาคดีได้ว่าสมควรจะให้เลื่อนไปหรือไม่ คดีนี้จำเลยขอเลื่อนคดีมาแล้วถึง ๔ ครั้ง จนศาลชั้นต้นมีคำสั่งกำชับว่านัดหน้าจะไม่ยอมให้เลื่อนคดีอีกไม่ว่าด้วยกรณีใด ๆ ครั้นถึงวันนัดสืบพยานจำเลย ทนายจำเลยกลับยื่นคำร้องขอถอนตัวจากการเป็นทนายจำเลยและจำเลยก็ไม่มาศาล ตามพฤติการณ์เป็นที่เห็นได้ว่าจำเลยมีเจตนาประวิงคดีให้ชักช้า ที่จำเลยกล่าวในฎีกาว่า การที่ทนายจำเลยขอถอนตัวมิใช่ความผิดของจำเลยและจำเลยไม่ทราบล่วงหน้า ชอบที่ศาลจะให้สืบพยานจำเลยได้นั้น ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อจำเลยแต่งตั้งทนายความให้ว่าความและดำเนินกระบวนพิจารณาแทนตน ก็จะต้องรับผิดชอบในการกระทำของทนายความที่ตนแต่งตั้ง ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้งดสืบพยานจำเลยนั้นชอบแล้ว
พิพากษายืน