แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในกรณีผิดสัญญาประกัน ป.ม.วิ.อาญามาตรา 119 บัญญัติไว้ให้ศาลมีคำสั่งบังคับได้ตามสัญญาประกัน ตามที่เห็นสมควรโดยมิต้องฟ้อง จึงเป็นอำนาจศาลที่จะผ่อนผันลดหย่อนได้ในเวลาใด ๆ ที่หนี้นั้นยังมิได้บังคับชำระเสร็จสิ้นได้เมื่อมีเหตุอันสมควร
ย่อยาว
คดีนี้ เป็นคดีกรณีนางกฤษณา โกยกูลบุคคลผู้ทำสัญญาประกันตัวนายเสถียร พรผลจำเลยต่อศาลกระทำผิดสัญญาประกัน โดยตัวจำเลยไม่มาศาลในวันนัดพิจารณา ศาลสั่งบังคับตามสัญญาประกันโดยปรับนางกฤษณาเป็นเงิน ๕๐๐๐ บาทเต็มตามจำนวนกำหนดไว้ในวันนั้นเองนางกฤษณาได้จ้างรถยนต์ไปตามตัวนายเสถียรจำเลยมาส่งศาล และร้องขอความกรุณาว่า จำเลยเข้าใจวันนัดผิดไป ขอให้ศาลวินิจฉัยสั่งใหม่ ศาลจังหวัดพังงาเห็นสมควรปรับนายประกันลดหย่อนผ่อนลงมาเพียงเหลือ ๑๐๐๐ บาท
นางกฤษณาอุทธรณ์ ขอให้ลดค่าปรับลงอีกอัยการโจทก์อุทธรณ์ว่า ศาลไม่มีอำนาจสั่งเปลี่ยนแปลงแก้ไขคำสั่งที่ให้ปรับ ๕๐๐๐ บาทแล้วนั้น
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ตามเหตุผลแห่งกรณีควรลดหย่อนผ่อนค่าปรับลงได้อีก จึงพิพากษาแก้คำสั่งศาลชั้นต้น ให้ปรับนางกฤษณาเป็นเงิน ๒๐๐+ บาท ส่วนอุทธรณ์ของโจทก์นั้นเห็นว่าอยู่ในอำนาจของศาลชั้นต้นที่จะสั่งได้
อัยการโจทก์ฎีกาว่า ศาลชั้นต้นจะเปลี่ยนแปลงแก้ไขคำสั่งเดิมที่สั่งให้ปรับนายประกัน ๕๐๐๐ บาทไม่ได้
ศาลฎีกาเห็นว่า ตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา ๑๑๙ ย่อมหมายความว่าในกรณีเช่นนี้ ก.ม.ให้อำนาจศาลผู้เป็นเจ้าหนี้ในการผิดสัญญาบังคับเอาแก่นายประกันในฐานที่เป็นลูกหนี้ของศาลได้โดยตรง การบังคับเช่นนี้ จึงเป็นอำนาจของศาลที่จะผ่อนผันลดหย่อนได้ในเวลาใด ๆที่หนี้นั้นยังมิได้บังคับชำระเสร็จสิ้นเมื่อมีเหตุสมควร และยังให้สิทธิแก่ฝ่ายที่ถูกบังคับหรือพนักงานอัยการที่ไม่เห็นด้วยกับการบังคับตามสัญญาประกันนั้นให้อุทธรณ์ฎีกาได้ด้วย คดีนี้ผู้ถูกบังคับตามสัญญาประกันได้อุทธรณ์และศาลอุทธรณ์ได้แก้ไขคำสั่งศาลชั้นต้นแล้ว เหตุที่อัยการโจทก์จะฎีกาคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในข้อนี้ก็ไม่มี ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
จึงพิพากษาให้ยกฎีกาโจทก์