คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 390/2488

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พฤตติการณ์ที่ถือว่ามิได้มีการมอบหมายทรัพย์ให้จำเลยไว้เพื่อการอย่างใดอย่างหนึ่ง อันเป็นองค์ความผิดฐานยักยอกทรัพย์.

ย่อยาว

ได้ความว่า โจทก์นำกระบือมาฆ่าหาอาหารเลี้ยง โดยไม่ได้รับอนุญาต จำเลยเป็นกำนันได้ใช้วาจาขู่เข็ณให้โจทก์ส่งเงินใหัจำเลยเป็นเงิน ๑๐๐ บาท มิฉะนั้นจะจับส่งอำเภอทั้งคนทั้งหลาย และว่าถ้าโจทก์ให้เงินจำเลยเสียทางนี้แล้ว ครางก็ไม่ติดเงินก็เสียไม่มาก ถ้าทูลส่งตัวไปอำเภอจะถูกปรับ ๑๐๐ บาทและติดตาราง ๑ ปี โจทก์จึงมอบเงินให้จำเลยไป ๗๐ บาทต่อหน้านายแก้ว เมื่อจำเลยได้รับเงินแล้วได้พูดกับโจทก์ว่า “สู้ทำงานไปและไม่ต้องตกใจ ไม่เป็นไร ค่าอนุญาตความจะเสียเอง” โจทก์จึงฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานใช้ตำแหน่งหน้าที่ทางทุจริต ชิงทรัพย์ และยักยอก รวม ๓ กะทง
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว สั่งประทับรับฟ้องเฉพาะข้อหาฐานยักยอก และในที่สุดพิพากษาลงโทษจำเลยตามมาตรา ๓๑๔
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
ศาลฎีกาเห็นว่า การที่จะถือว่า จำเลยกระทำผิดฐานยักยอกทรัพย์นั้น กรณีจะต้องปรากฎว่า จำเลยได้รับมอบหมายทรัพย์ไว้เพื่อการอย่างหนึ่งอย่างใด แต่ตามข้อเท็จจริงในคดีนี้ไม่ปรากฎว่า ได้การมอบหมายทรัพย์ให้จำเลยไปจัดการอย่างหนึ่งอย่างใดเลยกรณีเป็นเรื่องที่โจทก์ส่งเงินให้จำเลยเป็นการแลกเปลี่ยนกับการที่โจทก์ไม่ต้องถูกจับมากกว่า การทีจำเลยพูดปลอบโยนใจโจทก์เมื่อได้เงินไปแล้วนั้นไม่ทำให้การส่งเงินนั้นกลายเป็นการมอบหมายให้ทำ+ไปได้ คดีโจทก์ยังไม่พอลงโทษจำเลยฐานยักยอก พิพากษายืนศาลอุทธรณ์ ให้ยกฟ้องโจทก์

Share