แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
อุทธรณ์เรื่องค่าเสียหายที่กล่าวเพียงว่าจำเลยมิได้ละเมิดสิทธิของโจทก์ โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องใดๆ ทั้งสิ้นตามกฎหมายนั้นจำเลยหาได้กล่าวโต้แย้งข้อเท็จจริงและยกเหตุผลให้ชัดแจ้งว่าเหตุใดจึงไม่สมควรให้จำเลยรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ตามที่ศาลชั้นต้นให้ชดใช้และมีเหตุผลใดที่จะให้จำเลยรับผิดน้อยลงอุทธรณ์ของจำเลยในเรื่องค่าเสียหายจึงไม่เป็นอุทธรณ์ที่ศาลอุทธรณ์จะรับวินิจฉัยที่ศาลอุทธรณ์พิจารณาและพิพากษาแก้เรื่องค่าเสียหายจึงไม่ชอบด้วยบทบัญญัติของกฎหมายในเรื่องอุทธรณ์
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ซื้อที่ดินมือเปล่าจากนางเวินเนื้อที่ 27 ไร่ ราคา 15,000 บาทและได้ครอบครองทำประโยชน์ตลอดมาเกินหนึ่งปีจึงได้สิทธิครอบครองจำเลยนำหลักไม้แก่นปักบนที่ดินบางส่วนของโจทก์เนื้อที่ประมาณ 7 ไร่ อ้างว่าเป็นที่ดินสาธารณะโจทก์ห้ามจำเลยกลับท้าให้ฟ้อง เป็นการทำละเมิดต่อโจทก์ โจทก์เสียหาย ขอให้ศาลพิพากษาบังคับ
จำเลยให้การว่า ที่พิพาทเป็นส่วนหนึ่งของป่าช้าวังกระดาษเงินมีไว้เพื่อประโยชน์สำหรับชาวบ้านใช้ร่วมกันมานานหลายสิบปีแล้ว ยังไม่สิ้นสภาพการใช้เป็นป่าช้าอยู่ในความครอบครองดูแลของจำเลย โจทก์หรือตัวแทนไม่เคยเกี่ยวข้อง ไม่เคยเข้าครอบครองในฐานะเจ้าของ ไม่เคยทำนาพิพาท จึงไม่เสียหาย
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ ให้จำเลยรื้อถอนหลักไม้ออกไป และให้ใช้ค่าเสียหายปีละ 6,000 บาท
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ปีละ 2,000 บาท
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225 บัญญัติว่า “ข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายที่จะยกขึ้นอ้างอิงในการยื่นอุทธรณ์นั้นคู่ความจะต้องกล่าวไว้แจ้งชัดในอุทธรณ์ ฯลฯ” อันหมายความว่าการอุทธรณ์ไม่ว่าในปัญหาข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายต้องกล่าวไว้โดยชัดแจ้งถึงรายละเอียดแห่งข้อเท็จจริงในประเด็นแห่งคดี หรือปัญหาข้อกฎหมายมีอยู่อย่างไร นำมาปรับคดีได้อย่างไรเพื่อศาลอุทธรณ์จะวินิจฉัยคดีตามข้ออุทธรณ์ได้ถูกต้องตามประเด็นที่ยังคงโต้เถียงกันอยู่ ฉะนั้นอุทธรณ์ของจำเลยในเรื่องค่าเสียหายที่กล่าวเพียงว่าจำเลยมิได้ละเมิดสิทธิของโจทก์ โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องใด ๆ ทั้งสิ้นตามกฎหมายนั้น จำเลยหาได้กล่าวโต้แย้งข้อเท็จจริงและยกเหตุผลให้ชัดแจ้งว่าเหตุใดจึงไม่สมควรให้จำเลยรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ตามที่ศาลชั้นต้นให้ชดใช้ และมีเหตุผลใดที่จะให้จำเลยรับผิดน้อยลง อุทธรณ์ของจำเลยในเรื่องค่าเสียหายจึงไม่เป็นอุทธรณ์ที่ศาลอุทธรณ์จะรับไว้วินิจฉัย ที่ศาลอุทธรณ์พิจารณาและพิพากษาแก้เรื่องค่าเสียหายโดยให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เหลือปีละ 2,000 บาท จึงไม่ชอบด้วยบทบัญญัติของกฎหมายในเรื่องอุทธรณ์สมควรแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ถูกต้อง
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น