คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 389/2494

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในกรณีที่คู่ความดำเนินคดีในชั้นศาลชั้นต้น มาโดยเสียค่าฤชาธรรมเนียมไม่ถูกต้อง ตามกฎหมาย แต่ทั้งนี้เป็นเพราะศาลชั้นต้นไม่เรียกเก็บเสียให้ถูกเอง มิใช่ว่าเรียกแล้ว คู่ความฝ่ายนั้นไม่ยอมปฏิบัติตามครั้นเมื่อมีการอุทธรณ์ ก็มิได้เสียค่าฤชาธรรมเนียมมาให้ถูกต้องอีก ดังนี้ ศาลอุทธรณ์จะยกเอาเหตุที่มิได้เสียค่าฤชาธรรมเนียมให้ถูกต้องตาม ก.ม.มาเป็นเหตุให้ยกคำฟ้อง หรือคำร้องนั้นเสียไม่ได้ เมื่อเห็นว่าผู้อุทธรณ์ควรจะเสียเพิ่มขึ้นประการใดก็ชอบที่จะสั่งให้ผู้อุทธรณ์เสียให้ถูกต้อง เมื่อผู้อุทธรณ์ปฏิบัติตามแล้ว ก็ควรจะได้วินิจฉัยปัญหาในท้องสำนวนต่อไป

ย่อยาว

คดีนี้ เมื่อศาลแพ่งได้พิพากษาให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลายแล้ว เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้สั่งอายัติเงินจำนวนหนึ่งไปยังธนาคาร ผู้ร้องคัดค้านว่า ผู้ร้องได้รับโอนเงินจำนวนนี้มาโดยสุจริต ขอให้ถอนการอายัติ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สอบสวนแล้ว สั่งยกคำร้องของผู้ร้อง ๆ ยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาลแพ่ง ๆ พิจารณาแล้วเห็นชอบด้วยกับคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ให้ยกคำร้องชมผู้ร้องเสีย
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ผู้ร้องเสียค่าธรรมเนียมค่าฤชากรไม่ถูกต้องตามกฎหมายโดยปิดฤชากร ๕ บาท ไม่เป็นคำร้องที่ศาลจะรับพิจารณาได้ ให้ยกคำร้องเสีย
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า เรื่องค่าธรรมเนียมอันเกี่ยวแก่ผู้ร้องในกรณีนี้ ศาลชั้นต้นมิได้สั่งให้เรียกเก็บตามจำนวนทุนทรัพย์เอง มิใช่ว่า ผู้ร้องขัดขืนไม่ยอมเสีย ฉะนั้นเมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่า ผู้ร้องควรจะเสียเพิ่มขึ้นประการใด ก็ชอบที่จะสั่งให้ผู้ร้องเสียให้ถูกต้อง เมื่อผู้ร้องปฏิบัติตามแล้ว ก็ควรจะได้วินิจฉัยปัญหาในท้องสำนวนต่อไป
พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ศาลอุทธรณ์ดำเนินการสั่งเรื่องค่าธรรมเนียมตามนัยที่กล่าวแล้ว

Share