คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3887/2534

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

จำเลยขนส่งกระจกให้โจทก์ ใบสั่งจ่ายรถยนต์เงินสดของจำเลยแม้จะมีข้อความยกเว้นหรือจำกัดความรับผิดไว้แต่ก็หาใช่ใบรับใบตราส่งหรือเอกสารอื่น ๆ ในทำนองนั้น ซึ่งจำเลยออกให้โจทก์และโจทก์ได้แสดงความตกลงด้วยชัดแจ้งในการยกเว้นหรือจำกัดความรับผิดตาม ป.พ.พ. มาตรา 625 อันจะเป็นเหตุให้จำเลยหลุดพ้นจากความรับผิด กระจกลามิเนทของโจทก์เพียงแต่เป็นทรัพย์สินที่แตกหักได้ง่าย ไม่ใช่ของมีค่าตามความหมายของ ป.พ.พ. มาตรา 620 การที่กระจกซึ่งจำเลยขนส่งแตกหักเสียหายนั้น ค่าจ้างในการจัดหากระจกมาติดตั้งชั่วคราวที่อาคารศูนย์การค้าของโจทก์หาใช่ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายอันเกิดแต่พฤติการณ์พิเศษ ซึ่งจำเลยได้คาดเห็นหรือควรจะได้คาดเห็นพฤติการณ์เช่นนี้ล่วงหน้าก่อนแล้ว จำเลยจึงไม่ต้องรับผิด ส่วนค่าใช้จ่ายในการออกของและค่าภาษีอากรขาเข้าสำหรับกระจกดังกล่าวเป็นค่าใช้จ่ายอันจำเป็นและถือได้ว่าเป็นค่าเสียหายโดยตรง จำเลยต้องรับผิดในค่าใช้จ่ายดังกล่าว.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของกระจกลามิเนทจำนวน 98 แผ่นโจทก์ว่าจ้างจำเลยที่ 1 ให้ขนส่งกระจกดังกล่าวจากท่าเรือกรุงเทพไปยังโกดังของโจทก์ที่ถนนรัชดาภิเษก เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2528จำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 ที่ 3 ได้ร่วมกันดำเนินการขนส่งกระจกลามิเนท จำนวน 98 แผ่น ซึ่งบรรจุอยู่ในตู้สินค้าขึ้นรถบรรทุกลากจูงหมายเลขทะเบียนนครศรีธรรมราช 80-1283 ของจำเลยที่ 2ที่ 3 ออกจากท่าเรือกรุงเทพเพื่อไปยังโกดังของโจทก์ เมื่อรถบรรทุกวิ่งไปถึงบริเวณทางแยกถนนสุนทรโกษาตัดกับถนนรัชดาภิเษก คนขับรถได้เลี้ยวเปลี่ยนเส้นทางจากถนนสุนทรโกษาเข้าถนนรัชดาภิเษกด้วยความเร็วสูง ประกอบกับถนนลื่นทำให้รถบรรทุกลากจูงเสียหลักพลิกตะแคงกับพื้นถนน ตู้สินค้าตกกระแทกกับพื้นถนน ทำให้กระจกลามิเนททั้งหมด 98 แผ่น แตกหักบุบสลาย คิดเป็นเงินไทย 540,896.57 บาทค่าใช้จ่ายในการออกสินค้าเป็นเงิน 16,819.55 บาท ค่าภาษีอากรขาเข้าเป็นเงิน 361,361.54 บาท และโจทก์ต้องจัดหากระจกมาทำการติดตั้งชั่วคราว เสียค่าดำเนินการเป็นเงิน 242,452 บาท รวมเป็นเงินค่าเสียหายที่จำเลยทั้งสามจะต้องร่วมกันชำระให้แก่โจทก์ทั้งหมดจำนวน 1,161,529.66 บาท โจทก์มีหนังสือทวงถามให้จำเลยที่ 1ชดใช้ค่าเสียหาย จำเลยที่ 1 ยินยอมจ่ายให้โจทก์เพียง 300,000 บาทจำเลยทั้งสามจึงค้างชำระค่าเสียหายแก่โจทก์อีก 861,529.66 บาทต่อมาโจทก์ได้รับชดใช้ค่าเสียหายจากผู้รับประกันภัยเป็นเงิน309,624.10 บาท โจทก์จึงมีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยทั้งสามชำระค่าเสียหายที่เหลือจำนวน 551,905.56 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันที่ 22 มกราคม 2528ถึงวันฟ้องเป็นเวลา 1 ปี คิดเป็นเงิน 41,392.92 บาท รวมเป็นเงินที่จำเลยทั้งสามต้องร่วมกันรับผิดชดใช้โจทก์จำนวน 593,298.48 บาทขอให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงิน 593,298.48 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีของจำนวนเงิน 551,905.56 บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยที่ 1 ให้การว่า ในวันเกิดเหตุคนขับรถหมายเลขทะเบียนนครศรีธรรมราช 80-1283 ไม่ได้ขับรถโดยประมาท เหตุที่รถพลิกคว่ำเกิดจากมีรถคันอื่นแล่นตัดหน้าในระยะกระชั้นชิดและถนนลื่นอันเป็นเหตุสุดวิสัย จำเลยที่ 1 ไม่ต้องรับผิด ค่าเสียหายที่โจทก์เรียกร้องสูงกว่าความเป็นจริง โจทก์ไม่แจ้งราคามูลค่าสินค้าตามความเป็นจริง หากเกิดความเสียหาย จำเลยจะชดใช้ให้ไม่เกิน300,000 บาท ตามระเบียบของคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางค่าจ้างติดตั้งกระจกชั่วคราวที่โจทก์จ้างบริษัท กิ้มหยูเส็งค้ากระจกจำกัด ควรมีราคาเพียง 100,000 บาท โจทก์ได้รับการชดใช้ค่าเสียหายครบถ้วนแล้ว ขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ 2 ให้การว่า โจทก์มิได้เป็นเจ้าของกระจกลามิเนทจึงไม่ใช่ผู้เสียหายไม่มีอำนาจฟ้อง โจทก์มิได้รับความเสียหายตามฟ้องความเสียหายของโจทก์ไม่ตรงกับความจริง โจทก์ได้รับชดใช้ค่าเสียหายครบถ้วนแล้ว เหตุที่รถบรรทุกลากจูงของจำเลยที่ 2 พลิกคว่ำเกิดจากการกระทำของบุคคลภายนอกซึ่งเป็นเหตุสุดวิสัย จำเลยที่ 2 ไม่ต้องรับผิด ขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ 3 ให้การว่าจำเลยที่ 3 ไม่ได้อยู่ในเครือเดียวกับบริษัทจำเลยที่ 2 และมิได้ร่วมกับจำเลยที่ 1 ที่ 2 ในการขนส่งกระจกลามิเนทให้แก่โจทก์ โจทก์มิได้เป็นเจ้าของกระจกและมิได้เสียหายตามฟ้อง ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 ร่วมกันชำระเงินจำนวน551,905.56 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีของจำนวนเงินดังกล่าว นับแต่วันที่ 22 มกราคม 2528 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ ให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 ชดใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์โดยกำหนดค่าทนายความให้ 3,000 บาท
จำเลยที่ 1 ที่ 2 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 1 ที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “…จำเลยที่ 1 ที่ 2 ฎีกาในข้อต่อมาว่าความเสียหายเกิดขึ้นเพราะการที่โจทก์บรรจุหีบห่อไม่เรียบร้อยคานที่ยึดกระจกข้างในอาจไม่แข็งแรงพอ เมื่อรถเอียงเพียงเล็กน้อยก็เป็นเหตุให้รถคว่ำได้ ทั้งผู้รับขนส่งไม่อาจจะตรวจสอบสินค้าได้ว่ามีสภาพเป็นอย่างไรจึงเป็นความผิดของผู้ส่งที่ไม่ผูกรัดตรึงกระจกให้เรียบร้อย ต้องถือว่าเป็นเหตุสุดวิสัยนั้น ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 616 บัญญัติว่า “ผู้ขนส่งจะต้องรับผิดในการที่ของอันเขาได้มอบหมายแก่ตนนั้นสูญหายหรือบุบสลายหรือส่งมอบชักช้าเว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่า การสูญหายหรือบุบสลายหรือชักช้านั้นเกิดแต่เหตุสุดวิสัยหรือเกิดแต่สภาพแห่งของนั้นเอง หรือเกิดเพราะความผิดของผู้ส่งหรือผู้รับตราส่ง” ข้อนี้จำเลยที่ 2 ได้นำนายวีรชาติเสรีวัฒนา กรรมการของจำเลยที่ 2 เข้าเบิกความเป็นพยานว่า การที่กระจกแตกเพราะรถคว่ำเนื่องจากเหตุสุดวิสัยเพราะตามกฎหมายจราจรและสภาพของการจราจรบนถนนที่เกิดเหตุรถไม่สามารถวิ่งได้เร็วฉะนั้น เหตุที่เกิดอาจจะเป็นเพราะการบรรจุหีบห่อไม่เรียบร้อยศาลฎีกาเห็นว่า การที่จำเลยนำสืบว่าขณะเกิดเหตุรถไม่สามารถวิ่งได้เร็วนั้น เป็นเพียงการนำสืบถึงสภาพความเร็วของรถในขณะเกิดเหตุโดยไม่ปรากฏว่าเหตุที่ทำให้รถคว่ำเป็นเหตุสุดวิสัย อันไม่อาจป้องกันได้ ซึ่งจะทำให้จำเลยหลุดพ้นจากความรับผิดแต่อย่างใดทั้งข้อที่อ้างว่าโจทก์บรรจุหีบห่อไม่เรียบร้อย ก็เป็นเพียงการคาดคะเน และกล่าวอ้างลอย ๆ ปราศจากพยานหลักฐานอื่นใดสนับสนุนจึงรับฟังไม่ได้ว่า ความเสียหายเกิดจากเหตุสุดวิสัยหรือเพราะความผิดของโจทก์ จำเลยที่ 1 ที่ 2 จึงต้องร่วมกันรับผิดต่อโจทก์ ฎีกาของจำเลยที่ 1 ที่ 2 ข้อนี้ฟังไม่ขึ้น
ที่จำเลยที่ 1 ที่ 2 ฎีกาว่า เอกสารใบสั่งจ่ายรถยนต์เงินสดของจำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่มอบให้โจทก์ไว้มีข้อความจำกัดความรับผิดของจำเลยไว้พิมพ์ด้วยตัวอักษรสีแดงตัวโต เห็นได้ชัดเจน อ่านง่ายจึงถือได้ว่า เป็นเอกสารของจำเลยที่ผู้ส่งหรือผู้ว่าจ้างได้ทราบข้อยกเว้นหรือจำกัดความรับผิดของจำเลยโดยชัดแจ้ง และยินยอมตกลงด้วยแล้ว จึงถือว่าเป็นเอกสารอื่น ๆ ทำนองใบรับ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 625 แล้วนั้น ศาลฎีกาได้พิเคราะห์ใบสั่งจ่ายรถยนต์เงินสดเอกสารหมาย ล.1 ของจำเลยที่ 1 แล้วเห็นว่า เป็นเอกสารการสั่งจ่ายรถยนต์ของจำเลยที่ 1 เอง แม้เอกสารดังกล่าวจะมีข้อความยกเว้นหรือจำกัดความรับผิดไว้แต่ก็หาใช่ใบรับใบตราส่งหรือเอกสารอื่น ๆ ทำนองนั้น ซึ่งจำเลยที่ 1 ออกให้โจทก์และโจทก์ได้แสดงความตกลงด้วยชัดแจ้งในการยกเว้นหรือจำกัดความรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 625 อันจะเป็นเหตุให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 หลุดพ้นจากความรับผิดได้ อุทธรณ์ของจำเลยที่ 1 ที่ 2 ฟังไม่ขึ้น
ส่วนที่จำเลยที่ 1 ที่ 2 ฎีกาว่า จำเลยที่ 1 เป็นรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงคมนาคม การกำหนดอัตราค่าขนส่งนั้นต้องเป็นไปตามประกาศอัตราค่าขนส่งของคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางซึ่งสังกัดกระทรวงคมนาคมเป็นผู้กำหนดว่า ถ้าผู้ว่าจ้างไม่แจ้งมูลค่าราคาสินค้าให้ทราบ จำเลยที่ 1 จะชดใช้ค่าสินค้าให้ไม่เกิน100,000 บาท สำหรับรถยนต์บรรทุก 6 ล้อ ส่วนรถลากจูงคอนเทนเนอร์จะชดใช้ให้ไม่เกิน 300,000 บาท เมื่อโจทก์ไม่แจ้งราคามูลค่าสินค้าที่ขนส่งตามความจริง จำเลยที่ 1 ที่ 2 จึงไม่ต้องรับผิดเกินกว่าประกาศดังกล่าวนั้น เห็นว่า แม้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 620 จะบัญญัติยกเว้นความรับผิดของผู้ขนส่งไว้ว่าผู้ขนส่งไม่ต้องรับผิดในเงินทองตรา ธนบัตร ฯลฯ และของมีค่าอย่างอื่น ๆหากมิได้รับบอกราคาหรือสภาพแห่งของไว้ในขณะที่ส่งมอบแก่ตนก็ตามแต่กระจกของโจทก์ก็ไม่ใช่ของมีค่าตามความหมายของมาตรานี้ เพียงแต่เป็นทรัพย์สินที่แตกหักได้ง่ายซึ่งนายพงษา ชาญกสิคุปต์ พยานจำเลยก็เบิกความยอมรับว่า ตัวแทนของโจทก์ได้แจ้งสภาพแห่งของให้เจ้าหน้าที่ของจำเลยที่ 1 ทราบแล้ว จำเลยที่ 1 ที่ 2 จึงไม่อาจกล่าวอ้างประกาศอัตราค่าขนส่งดังกล่าวข้างต้นมาเป็นเหตุให้หลุดพ้นจากความรับผิดในความเสียหายส่วนที่เกินกว่า 300,000 บาท ได้
จำเลยที่ 1 ที่ 2 ฎีกาในข้อสุดท้ายว่า ค่าเสียหายสำหรับค่ากระจกที่นำมาติดตั้งชั่วคราวที่ศูนย์การค้ามาบุญครอง และค่าใช้จ่ายในการออกสินค้าดังกระจกกินค่าภาษีอากรขาเข้า รวม 378,181.09 บาทไม่ใช่ผลโดยตรงที่จำเลยจะต้องรับผิดนั้น เห็นว่า ที่โจทก์นำสืบว่าโจทก์มีความจำเป็นต้องติดตั้งกระจกที่ศูนย์การค้าของโจทก์ให้เสร็จก่อนกำหนดพิธีเปิด จึงต้องว่าจ้างบริษัทกิ้มหยูเส็งค้ากระจกจำกัด ให้ติดตั้งกระจกชั่วคราวนั้น หาใช่ ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายอันเกิดแต่พฤติการณ์พิเศษ ซึ่งจำเลยที่ 1 ที่ 2ได้คาดเห็นหรือควรจะได้คาดเห็นพฤติการณ์เช่นนั้นล่วงหน้าก่อนแล้วจำเลยที่ 1 ที่ 2 จึงไม่ต้องรับผิดในค่าติดตั้งกระจกชั่วคราวดังกล่าวนั้น ส่วนค่าใช้จ่ายในการออกของ และค่าภาษีอากรขาเข้านั้นเห็นได้ว่าเป็นค่าใช้จ่ายอันจำเป็นและถือได้ว่าเป็นค่าเสียหายโดยตรงจำเลยที่ 1 ที่ 2 จึงต้องรับผิดในค่าใช้จ่ายดังกล่าว ฎีกาของจำเลยที่ 1 ที่ 2 ฟังขึ้นเป็นบางส่วน”
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกคำขอของโจทก์ในเรื่องค่าเสียหายในการจัดหากระจกติดตั้งชั่วคราวที่ตัวอาคารศูนย์การค้ามาบุญครองเซ็นเตอร์เป็นจำนวนเงิน 242,452 บาทเสีย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์.

Share