คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 387/2509

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 ร่วมกันใช้ค่าข้าวโพดเป็นเงิน 2,700 บาทแก่โจทก์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 ร่วมกันใช้ค่าข้าวโพดเป็นจำนวนเงิน 180 บาทแก่โจทก์ ให้โจทก์ใช้ค่าสุกรที่โจทก์ยิงตายให้จำเลยที่ 2 เป็นเงิน 180 บาท โจทก์ฎีกาเฉพาะค่าเสียหายว่าโจทก์ควรได้ดังที่ศาลชั้นต้นกำหนด ดังนี้ เป็นแก้ไขมาก

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองเลี้ยงสุกรไว้ประมาณ ๑๕-๑๖ ตัว สุกรจำเลยทั้งหมดเข้าเหยียบย่ำกัดกินต้นข้าวโพดของโจทก์ซึ่งปลูกไว้เสียหาย ขอให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย ๔,๓๒๐ บาท
จำเลยที่ ๒ ให้การว่า โจทก์เข้าใจว่าสุกรจำเลยที่ ๒ เข้าไปกัดกินข้าวโพดของโจทก์จึงใช้ปืนยิง และฟันด้วยมีดจนตาย ความจริงสุกรผู้อื่นกินข้าวโพดของโจทก์ จำเลยที่ ๒ ฟ้องแย้งเรียกราคาสุกรจากโจทก์ ๑,๙๐๐ บาท
จำเลยที่ ๑ ให้การว่า ไม่มีสุกรเลี้ยง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว การที่โจทก์ยิงสุกรจำเลยตายไม่เป็นนิรโทษกรรม แต่จำเลยได้รับผลตอบแทนจากเนื้อสุกรพอสมควร ไม่บังคับให้โจทก์ใช้ค่าสินไหมทดแทน พิพากษาให้จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ร่วมกันชำระค่าข้าวโพดเป็นเงิน ๒,๗๐๐ บาท
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ร่วมกันใช้ค่าข้าวโพดให้โจทก์ ๑๘๐ บาท ให้โจทก์รับผิดใช้ค่าสุกรเป็นเงิน ๑๘๐ บาท
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นเห็นว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นมาก โจทก์มีสิทธิฎีกาข้อเท็จจริงได้ จึงรับฎีกาโจทก์
ส่วนข้อเท็จจริงศาลฎีกาฟังว่าสุกร ๑๕-๑๖ ตัวที่โจทก์ว่าเข้าไปกัดกินข้าวโพดของโจทก์นั้น เป็นของจำเลยเพียงตัวเดียว
พิพากษายืน.

Share