คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 385/2498

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนเมื่อศาลเห็นสมควรศาลจะยกขึ้นวินิจฉัยก็ได้
เทศบาลจะมีอำนาจตราเทศบัญญัติเรื่องสะพานท่าเทียบเรือสาธารณะได้ก็แต่ภายในขอบเขตอำนาจของตนโดยไม่ขัดหรือแย้งต่อกฎหมาย
พระราชบัญญัติเทศบาล 2486 มาตรา 70 เพียงแต่ให้อำนาจเทศบาลกระทำกิจการใดๆ ภายในเขตเทศบาลเช่นให้มี ฯลฯ ท่าเทียบเรือ ฯลฯ เท่านั้นดังนี้เทศบาลไม่มีอำนาจออกเทศบัญญัติห้ามมิให้ผู้ใดปลูกสร้างหรือทำให้เกิดสิ่งกีดขวางขึ้นลงและไปมาในเขตท่าของเทศบาลภายในรัศมี 500 เมตรดังนี้แม้จำเลยจะได้ปลูกสร้างท่าเทียบเรือขึ้นภายในรัศมีดังกล่าว ก็ไม่ผิดเพราะเทศบัญญัตินั้นไม่มีผลใช้บังคับ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยในคดีนี้ซึ่งเป็นกรรมการของบริษัทจงเส็งจำกัดกับพวกได้กระทำฝ่าฝืนเทศบัญญัติ กล่าวคือสมคบกันจัดการปลูกสร้างสะพานท่าเทียบเรือขึ้นในบริเวณเขตท่าของเทศบาลเมืองตะกั่วป่าตามแผนที่ท้ายฟ้อง เป็นเหตุให้กีดขวางแก่การใช้ท่าเทียบเรือของเทศบาลโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ตามเทศบัญญัติ ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติเทศบาล 2486 มาตรา 54, 70 พระราชบัญญัติเทศบาล 2496 มาตรา 6, 60 เทศบัญญัติของเทศบาลเมืองตะกั่วป่าเรื่องสะพานท่าเทียบเรือสาธารณะ 2493 ลงวันที่ 9 มกราคม 2494 ข้อ 6, 31

จำเลยปฏิเสธต่อสู้หลายประการ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามข้อ 6 แห่งเทศบัญญัติเรื่องสะพานท่าเทียบเรือสาธารณะ พ.ศ. 2493 ของเทศบาลเมืองตะกั่วป่าปรับ 40 บาท

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่าโจทก์ฟ้องว่า จำเลยสร้างสะพานท่าเทียบเรือเป็นเหตุให้กีดขวางแก่การใช้ท่าเทียบเรือของเทศบาล แต่นายกเทศมนตรีฯ พยานโจทก์ว่าท่าเทียบเรือนี้ไม่กีดขวางแก่ท่าเทียบเรือของเทศบาลดังฟ้อง พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์ ปล่อยจำเลย

โจทก์ฎีกาว่า ตามฟ้องโจทก์ประสงค์จะให้ลงโทษจำเลยฐานปลูกสร้างสะพานท่าเทียบเรือขึ้นในเขตท่าโดยมิได้รับอนุญาตซึ่งโจทก์ถือว่าการกระทำของจำเลยผิดตามมาตรา 6 แห่งเทศบัญญัติแล้ว แม้ทางพิจารณาจะไม่ได้ความว่าสะพานท่าเทียบเรือพิพาทนี้กีดขวางแก่ท่าเทียบเรือของเทศบาลดังโจทก์ฟ้องก็ดี ศาลก็ลงโทษจำเลยได้

ศาลฎีกาเห็นว่า เทศบัญญัติที่โจทก์ฟ้องข้อ 6 บัญญัติว่า”ภายในเขตท่าห้ามมิให้ผู้ใดปลูกสร้างหรือทำให้เกิดสิ่งกีดขวางขึ้นลงและไปมาอย่างใด เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่แล้ว” คำว่า “เขตท่า” ตามคำวิเคราะห์แห่งเทศบัญญัติหมายความถึงบริเวณที่เรืออาจเข้าจอดเทียบท่าได้ตามทางน้ำห่างจากท่าเทียบเรือ(ของเทศบาล) รัศมีโดยรอบ 500 เมตร ท่าเทียบเรือรายพิพาทจึงอยู่ภายในเขตท่า” ตามความหมายของเทศบัญญัติ

คดีมีปัญหาควรพิจารณาก่อนว่าเทศบัญญัติตามที่โจทก์ฟ้องนี้จะมีผลบังคับถึงสะพานท่าเทียบเรือพิพาทหรือไม่ เห็นว่าเทศบัญญัติดังกล่าวออกตามความในมาตรา 54 และ 70 แห่งพระราชบัญญัติเทศบาลพ.ศ. 2486 มาตรา 54 บัญญัติว่า “เทศบาลมีอำนาจตราเทศบัญญัติโดยไม่ขัดหรือแย้งต่อบทกฎหมายในกรณีต่อไปนี้

(1) เพื่อปฏิบัติการให้เป็นไปตามอำนาจหน้าที่ของเทศบาลที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้

(2) ในกรณีที่บทกฎหมายบัญญัติไว้ให้เทศบาลตราเทศบัญญัติหรือให้มีอำนาจตราเทศบัญญัติ ฯลฯ

มาตรา 70 บัญญัติว่า “ภายใต้บังคับแห่งกฎหมายเทศบาลเมืองอาจจะทำกิจการใด ๆ ภายในเขตเทศบาลดังต่อไปนี้

(1) ให้มี ฯลฯ ท่าเทียบเรือ ฯลฯ

กฎหมายหาได้ให้อำนาจเทศบาลที่จะไปห้ามผู้ใดสร้างหรือใช้สะพานท่าเทียบเรือในที่ของเอกชนคนใดซึ่งเขามีสิทธิอยู่เช่นในคดีนี้ไม่ เทศบาลจะมีอำนาจตราเทศบัญญัติเรื่องสะพานท่าเทียบเรือหรือสาธารณะได้ก็แต่ภายในขอบเขตอำนาจของตนโดยไม่ขัดหรือแย้งต่อกฎหมาย เช่นวางระเบียบเกี่ยวกับเรือเข้าเทียบท่าหรือออกจากท่าของเทศบาล วางอัตราค่าธรรมเนียมเทศบาลจะออกเทศบัญญัติกำหนดให้เขตท่าหมายถึง บริเวณที่เรืออาจเข้าจอดเทียบท่าได้ห่างจากท่าเทียบเรือของเทศบาลรัศมีโดยรอบ 500 เมตรอันเป็นการตัดสิทธิ์ของบุคคลโดยกฎหมายไม่ได้ให้อำนาจไว้เช่นนี้เป็นการไม่ชอบ ดังนั้นการที่จำเลยสร้างและใช้สะพานท่าเรือพิพาทจึงไม่เป็นผิดต่อเทศบัญญัติดังฟ้อง แม้ปัญหาข้อนี้จะไม่มีฝ่ายใดอ้างอิงขึ้นมาโดยตรงก็ดีศาลก็อาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้ เพราะเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยและเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยปัญหาข้ออื่น ๆ ต่อไป พิพากษายืนที่ให้ยกฟ้องโจทก์

Share