คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 384/2478

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ที่ดิน ชื่อในโฉนด ครอบครัว ผัวเมีย สินบุริคณห์ สินส่วนตัว ยอมให้ภรรยามีชื่อในโฉนดผู้เดียวจะสันนิษฐานว่ายอมให้ภรรยาจัดการใด ๆ เกี่ยวแก่โฉนดไม่ได้ ทรัพย์ที่ได้มาระวางเป็นสามีภรรยากันจะถือว่าเป็นสินส่วนตัวไม่ได้ กฎหมายมิได้ถือว่าผู้มีชื่อในโฉนดเท่านั้นเป็นเจ้าของคนที่ไม่มีชื่ออาจเป็นเจ้าของด้วยได้ การที่สามีร้องขัดทรัพย์เท่ากันบอกล้างนิติกรรมอยู่ในตัว ฎีกาอุทธรณ์ปัญหาข้อเท็จจริง ทำให้มหาชนหลงเข้าใจผิดหรือไม่เป็นปัญหาข้อเท็จจริงการกระทำเป็นการสุจริตหรือไม่เป็นข้อเท็จจริง

ย่อยาว

โจทก์ชนะคดีจำนองแล้วยึดทรัพย์จำนองผู้ร้องขัดทรัพย์ว่า ฮ.จำเลยเป็นภรรยาผู้ร้องเอาทรัพย์ซึ่งเป็นสินบริคณห์ไปจำนองโดยมิได้รับอนุญาตจากผู้ร้อง ขอให้ถอนการยึด ทางพิจารณาได้ความว่าทรัพย์รายพิพาท ฮ.ภรรยาผู้ร้องได้รับมฤดกในระวางเป็นสามีภรรยากับผู้ร้องยังไม่ได้แบ่งกันระวางผู้รับมฤดก ในโฉนดมีชื่อ ฮ.จำเลยมิได้มีชื่อผู้ร้อง
ศาลคดีต่างประเทศเชื่อตามคำร้องจึงสั่งถอนการยึดที่ดินส่วนที่จะตกลงแบ่งให้ ฮ.จำเลย ถ้าไม่ตกลงกันแบ่งส่วนกันได้ ก็ให้ยื่นคำร้องต่อศาลตามประมวลแพ่งมาตรา ๑๓๖๔ ศาลอุทธรณ์ยืน
ศาลฎีกากล่าวว่าคู่ความฎีกาได้ฉะเพาะข้อกฎหมาย และวินิจฉัยว่า (๑) กฎหมายมีได้ถือเสมอไปว่าผู้มีชื่อในโฉนดเท่านั้นเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ คนอื่นที่ไม่ชื่ออาจเป็นเจ้าของร่วมด้วยได้ (๒) ทรัพย์ได้มาระวางเป็นสามีภรรยากันจะถือว่าเป็นสินส่วนตัวไม่ได้ (๓) การอ้างว่าผู้ร้องทำให้มหาชนหลงเข้าในผิดเป็นปัญหาข้อเท็จจริง (๔) การยอมให้ภรรยามีชื่อในโฉนดผู้เดียวจะสันนิษฐานว่ายอมให้ภรรยาจัดการใด ๆ เกี่ยวแก่โฉนดไม่ได้ เพราะไม่มีกฎหมายให้สันนิษฐานเด็ดขาดเช่นนั้น (๕) การฟ้องคดีเท่ากับการบอกล้างนิติกรรรมอยู่ในตัว (๖) การกระทำของผู้ร้องเป็นการสุจริตหรือไม่เป็นข้อเท็จจริง
พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์

Share