คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 382/2524

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องเรียกถอนคืนการให้ที่ดิน เพราะเหตุจำเลยประพฤติเนรคุณ โดยบรรยายฟ้องว่าโจทก์พยายามพบและพูดกับจำเลยเพื่อขอสิ่งของจำเป็นเลี้ยงชีวิต จำเลยหลีกเลี่ยงไม่ยอมให้พบและไม่ยอมพูดด้วย แม้มิได้กล่าวว่าโจทก์ไปขอสิ่งของจำเป็นเลี้ยงชีวิตจากจำเลยเมื่อใด โจทก์ยากจนเมื่อใดก็ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้เพิกถอนนิติกรรมให้เฉพาะส่วนในที่ดินตามโฉนดที่โจทก์ขอท้ายฟ้อง 6 โฉนด โดยให้จำเลยไปจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินดังกล่าวให้แก่โจทก์ หากจำเลยไม่ไป ให้ถือคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “มีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยข้อแรกว่าฟ้องของโจทก์เคลือบคลุมหรือไม่ โจทก์บรรยายฟ้องเป็นใจความว่า เมื่อยกที่ดินแปลงสุดท้ายให้จำเลยประมาณ 2-3 เดือน จำเลยไม่เอาใจใส่เลี้ยงดูโจทก์ตามสมควร เมื่อขอให้จัดอาหาร กลับด่าว่าโจทก์ โจทก์มีอายุมากแล้วประกอบอาชีพใด ๆ ไม่ได้ ต้องอาศัยบุตรซึ่งยากจนอยู่แล้ว โจทก์ยากจนได้รับความลำบาก จำเลยทราบดี โจทก์พยายามพบและพูดกับจำเลยเพื่อขอสิ่งของจำเป็นเลี้ยงชีวิต จำเลยหลีกเลี่ยงไม่ยอมให้พบและไม่ยอมพูดด้วยฟ้องของโจทก์ได้แสดงโดยชัดแล้วซึ่งสภาพแห่งข้อหาข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเป็นที่เข้าใจได้ ที่มิได้กล่าวว่าโจทก์ไปขอสิ่งของจำเป็นเลี้ยงชีวิตจากจำเลยเมื่อใด โจทก์ยากจนเมื่อใด เป็นรายละเอียด หาจำต้องกล่าวในฟ้องแต่อย่างใดไม่ ฟ้องของโจทก์ไม่เคลือบคลุม”

พิพากษายืน

Share