แหล่งที่มา : ADMIN
ย่อสั้น
หนังสือมอบอำนาจช่วงมีข้อความว่า’องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพโดยนายยรรยงคุโรวาทรองผู้อำนวยการ(บริหาร)ผู้รับมอบอำนาจขอมอบอำนาจช่วงให้นายเสริมชาติสุจริตพงศ์ฟ้องนายจำลองรุธิระวุฒิบริษัทขอนแก่นยนต์จำกัดบริษัทธนกิจประกันภัยจำกัดต่อศาลแพ่งในเรื่องละเมิดเรียกค่าเสียหายทั้งนี้ให้รวมถึงการดำเนินกระบวนพิจารณาอื่นๆทั้งในศาลและนอกศาล……ฯลฯ…’ข้อความตามที่ระบุไว้ดังกล่าวเป็นเรื่องโจทก์มอบอำนาจเฉพาะการมิใช่มอบอำนาจทั่วไปและระบุให้ผู้รับมอบอำนาจช่วงฟ้องเฉพาะจำเลยทั้งสามเท่านั้นแม้คำร้องของผู้รับมอบอำนาจช่วงที่ขอให้เรียกจำเลยร่วมเข้ามาในคดีมิใช่คำฟ้องแต่เมื่อศาลมีคำสั่งให้เรียกจำเลยร่วมเข้ามาในคดีแล้วก็มีผลให้จำเลยร่วมอาจถูกบังคับตามคำฟ้องได้ซึ่งมีผลเท่ากับเป็นการฟ้องจำเลยร่วมให้ร่วมรับผิดต่อโจทก์ด้วยและที่มีข้อความระบุให้ผู้รับมอบอำนาจช่วงดำเนินกระบวนพิจารณาอื่นๆทั้งในศาลและนอกศาลนั้นย่อมหมายถึงให้ดำเนินกระบวนพิจารณาเกี่ยวกับจำเลยทั้งสามตามที่ระบุชื่อไว้ในหนังสือมอบอำนาจช่วงนั้นเท่านั้นผู้รับมอบอำนาจช่วงจึงไม่มีอำนาจร้องขอให้ศาลเรียกจำเลยร่วมเข้ามาในคดี.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์มอบอำนาจให้นายยรรยง คุโรวาท ดำเนินคดีนี้และนายเสริมชาติ สุจริตพงศ์ เป็นผู้รับมอบอำนาจช่วง เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2523 จำเลยที่ 1 ขับขี่รถยนต์ของจำเลยที่ 2 ที่ประกันภัยไว้กับจำเลยที่ 3 ด้วยความประมาทชนท้ายรถยนต์ของโจทก์ได้รับความเสียหาย ขอบังคับให้จำเลยทั้งสองใช้ค่าสินไหมทดแทนพร้อมดอกเบี้ย โจทก์ถอนฟ้องจำเลยที่ 1 ที่ 2 ศาลชั้นต้นอนุญาต จำเลยที่ 3 ให้การว่า จำเลยที่ 3 มิได้รับประกันภัยรถยนต์ตามฟ้อง ค่าเสียหายสูงเกินความจริง ขอให้ยกฟ้อง โจทก์ยื่นคำร้องขอให้เรียกบริษัทมาร์รินเอ็กเพรส จำกัด เข้ามาเป็นจำเลยร่วมในฐานะเป็นเจ้าของและผู้ครอบครองรถยนต์โดยรับซื้อจากจำเลยที่ 2 และเป็นนายจ้างของจำเลยที่ 1 ผู้กระทำละเมิด ศาลชั้นต้นอนุญาต จำเลยร่วมให้การว่า หนังสือมอบอำนาจช่วง มิได้มอบให้ฟ้องจำเลยร่วม โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ฟ้องเคลือบคลุม คดีขาดอายุความ จำเลยที่ 1 มิได้เป็นลูกจ้างหรือตัวแทนของจำเลยร่วม เหตุเกิดเพราะความประมาทของฝ่ายโจทก์ ค่าเสียหายสูงไป ขอให้ยกฟ้อง ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยร่วมชำระเงินจำนวน 40,540 บาทพร้อมดอกเบี้ยให้แก่โจทก์ จำเลยร่วมอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยร่วมชำระเงินจำนวน 33,050 บาท พร้อมดอกเบี้ยให้แก่โจทก์ จำเลยร่วมฎีกา ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาอำนาจฟ้องว่า หนังสือมอบอำนาจช่วงตามเอกสารหมายจ.6 มีข้อความว่า “องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ โดยนายยรรยง คุโรวาท รองผู้อำนาจการ(บริหาร) ผู้รับมอบอำนาจขอมอบอำนาจช่วงให้นายเสริมชาติ สุจริตพงศ์ ฟ้องนายจำลองรุจิระวุติ บริษัทขอนแก่นยนต์ จำกัด บริษัทธนกิจประกันภัย จำกัด ต่อศาลแพ่งในเรื่องละเมิด เรียกค่าเสียหาย ทั้งนี้ให้รวมถึงการดำเนินกระบวนพิจารณาอื่น ๆ ทั้งในศาลและนอกศาล ฯลฯ ” ข้อความตามที่ระบุไว้ดังกล่าวเป็นเรื่องโจทก์มอบอำนาจเฉพาะการ มิใช่มอบอำนาจทั่วไป และระบุให้ผู้รับมอบอำนาจช่วงฟ้องเฉพาะจำเลยทั้งสามเท่านั้น มิได้ระบุให้ฟ้องจำเลยร่วมเป็นจำเลยด้วย แม้คำร้องของผู้รับมอบอำนาจช่วงที่ขอให้เรียกจำเลยร่วมเข้ามาในคดีมิใช่คำฟ้อง แต่เมื่อศาลมีคำสั่งให้เรียกจำเลยร่วมเข้ามาในคดีแล้ว ก็มีผลให้จำเลยร่วมอาจถูกบังคับตามคำฟ้องได้ ซึ่งมีผลเท่ากับเป็นการฟ้องจำเลยร่วม ซึ่งเป็นบุคคลอื่นนอกจากจำเลยทั้งสามตามที่ระบุชื่อไว้ในหนังสือมอบอำนาจช่วงให้ร่วมรับผิดต่อโจทก์ด้วยกล่าวคือ เป็นการฟ้องบุคคลนอกเหนือไปจากที่ระบุไว้ในหนังสือมอบอำนาจช่วงนั่นเอง อนึ่ง ตามข้อความที่ระบุให้ผู้รับมอบอำนาจช่วงดำเนินกระบวนพิจารณาอื่น ๆ ทั้งในศาลและนอกศาลนั้นย่อมหมายถึงให้ดำเนินกระบวนพิจารณาเกี่ยวกับจำเลยทั้งสามตามที่ระบุชื่อไว้ในหนังสือมอบอำนาจช่วงนั้นเท่านั้น ดังนี้ผู้รับมอบอำนาจช่วงจึงไม่มีอำนาจร้องขอให้ศาลเรียกจำเลยร่วมเข้ามาในคดีเพื่อรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยร่วมด้วย