คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3788/2529

แหล่งที่มา : ADMIN

ย่อสั้น

โจทก์จำเลยแถลงต่อศาลร่วมกันว่าคดีตกลงกันได้โดยจำเลยยอมชดใช้เงินตามจำนวนที่สั่งจ่ายเช็คแก่โจทก์แต่จำเลยต้องใช้เวลารวบรวมเงินขอให้ศาลเลื่อนการพิพากษาคดีออกไปหนึ่งนัดหากจำเลยชำระเงินให้โจทก์ครบถ้วนตามกำหนดโจทก์จะถอนฟ้องทันทีหากผิดนัดให้ศาลพิพากษาคดีไปได้ทันทีเช่นเดียวกันเช่นนี้ข้อตกลงดังกล่าวไม่มีข้อความใดแสดงว่าโจทก์ตกลงสละสิทธิในการดำเนินคดีอาญากับจำเลยในทันทีแต่กลับมีเงื่อนไขให้จำเลยต้องชำระเงินเสียก่อนโจทก์จึงจะถอนฟ้องให้แสดงว่าในระหว่างนั้นโจทก์ยังติดใจที่จะดำเนินคดีอาญากับจำเลยอยู่การที่จำเลยเตรียมเงินมาครบถ้วนในวันนัดต่อมาแต่โจทก์ไม่ยอมมาศาลก็เป็นเพียงข้อแสดงว่าจำเลยมิได้ผิดนัดเท่านั้นข้อตกลงดังกล่าวหามีผลเป็นการยอมความตามประมวลกฎหมายหวิธีพิจารณาความอาญามาตรา39(2)ไม่.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้ว ให้ประทับฟ้องไว้พิจารณา เดิมจำเลยให้การปฏิเสธ ในระหว่างพิจารณาจำเลยให้การรับสารภาพ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 คำรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคงให้จำคุก 1 ปี 4 เดือน พฤติการณ์แห่งคดีไม่สมควรรอการลงโทษให้แก่จำเลย จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลอุทธรณ์อนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อตกลงระหว่างโจทก์จำเลยซึ่งมีใจความว่า คดีตกลงกันได้โดยจำเลยยอมชดใช้เงินจำนวน 714,000 บาท ตามจำนวนที่สั่งจ่ายเช็คให้โจทก์ แต่จำเลยต้องใช้เวลารวบรวมเงิน ขอให้ศาลเลื่อนการพิพากษาคดีออกไปในวันที่3 กุมภาพันธ์ 2527 หากจำเลยชำระเงินให้โจทก์ครบถ้วนตามกำหนดโจทก์จะถอนฟ้องให้ทันที ถ้าหากผิดนัดให้ศาลพิพากษาไปได้ทันทีเช่นเดียวกัน ต่อมาในวันที่ 3 กุมภาพันธ์2527 จำเลยมาศาลฝ่ายเดียว และจำเลยได้เตรียมเงินมาชำระแก่โจทก์ครบถ้วนตามที่ตกลงกันเช่นนี้ ข้อตกลงดังกล่าวไม่มีข้อความใดแสดงว่าโจทก์ตกลงสละสิทธิในการดำเนินคดีอาญากับจำเลยในทันที แต่กลับมีเงื่อนไขให้จำเลยต้องชำระเงินเสียก่อน แล้วโจทก์จึงจะถอนฟ้อง ให้แสดงว่าในระหว่างนั้นโจทก์ยังติดใจที่จะดำเนินคดีอาญากับจำเลยอยู่ แม้วันนัดต่อมาจำเลยจะเตรียมเงินมาครบถ้วนก็เป็นเพียงข้อแสดงว่าจำเลยมิได้ผิดนัดเท่านั้น ข้อตกลงดังกล่าวหามีผลเป็นการยอมความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2) ไม่ ส่วนที่จำเลยฎีกาขอให้ลงโทษสถานเบาและขอให้รอการลงโทษนั้น โทษที่ศาลล่างลงแก่จำเลยนับว่าพอสมควรแก่ความผิดของจำเลยแล้ว แต่ตามพฤติการณ์แห่งคดีสมควรรอการลงโทษให้แก่จำเลย พิพากษาแก้เป็นว่า ให้รอการลงโทษให้แก่จำเลยไว้มีกำหนด 2 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 นอกจากที่แก้นี้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share