แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
บิดาได้ครอบครองถืออำนาจเป็นเจ้าของที่ดินมาช้านานถึง 30 ปี แล้วถึงแก่กรรมลง บุตรได้รับมรดกดคงปกครองที่ดินั้นต่อมาอีก 5,6,ปี โดยมิได้โอนโฉนดทางทะเบียนก็ถือได้ว่า บุตรได้รับช่วงการครอบครองที่ดินสืบต่อบิดา หาจำต้องโอนโฉนดทางทะเบียนก็ได้กรรมสิทธิ
ย่อยาว
โจทย์ฟ้องว่า บิดาจทก์ได้ซื้อที่พิพาทมาจากนายมะเยือก แล้วปกครองเป็นเจ้าของต่อมา ๓๐ ปีเศษแล้ว เมื่อ ๕ ปีมานี้บิดาโจทก์ตาย โจทก์เป็นผู้รับมรดกปกครองต่อมา บัดนี้จำเลยไปขอประกาศรับมรดกที่รายนี้ โจทก์จึงขอให้ศาลแสดงว่าที่พิพาทรายนี้เป็นกรรมสิทธิของโจทก์ ฯลฯ
จำเลยต่อสู้ว่า นายมะเยือกไม่ได้ขายทีพิพาทแก่บิดาโจทก์ ฯลฯ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า บิดาโจทก์ได้ครอบครองถืออำนาจเป็นเจ้าของที่พิพาทมาช้ามนานถึง ๓๐ ปี โจทก์ได้ครอบครองที่พิพาทโดยอำนาจของตนเองเพียง ๕ – ๖ ปี นับแต่บิดาตายแล้วไม่ เมื่อโจทก์ได้รับช่วงการครอบครองที่พิพาทสืบต่อจากบิดาโดยโจทก์ได้รับมรดก จึงหาจำต้องโอนโฉนดทางทะเบียนไม่
จึงพิพากษายืน