คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3781/2541

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เลื่อยฉลุไฟฟ้าและเครื่องหินเจียไฟฟ้าที่จำเลยนำไปจำนำ เป็นของโจทก์ร่วม และขณะนำไปจำนำจำเลยยังเป็นลูกจ้างโจทก์ร่วม การที่จำเลยนำเลื่อยฉลุไฟฟ้าและเครื่องหินเจียไฟฟ้าของ โจทก์ร่วมไปจำนำแล้วนำเงินที่ได้รับมาใช้ประโยชน์ส่วนตัวนั้น ถ้าจำเลยไม่ไถ่คืนภายในเวลาที่กำหนดผู้รับจำนำมีสิทธิ นำไปขายทอดตลาดได้ และทำให้โจทก์ร่วมได้รับความเสียหาย การกระทำของจำเลยถือได้ว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตโดยแสวงหา ประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเอง จึงเป็น ความผิดฐานลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้างตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(11) วรรคแรก

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 334, 335, 357, 91 ให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์รวม6,000 บาทแก่ผู้เสียหาย
จำเลยให้การปฏิเสธ
ระหว่างพิจารณา ห้างหุ้นส่วนจำกัดศรีเจริญอินเตอร์แพ็คผู้เสียหาย ยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์และโจทก์ร่วมอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(11) วรรคสอง ประกอบมาตรา 91การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปจำคุกกระทงละ 1 ปี รวมจำคุก 2 ปีและให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ตามฟ้องแก่ผู้เสียหาย
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงรับฟังได้ในเบื้องต้นว่าเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2537 และวันที่ 26 มิถุนายน 2537จำเลยนำเลื่อยฉลุไฟฟ้าและเครื่องหินเจียไฟฟ้าตามลำดับไปจำนำตามตั๋วรับจำนำเอกสารหมาย จ.5 มีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยตามฎีกาจำเลยว่า จำเลยกระทำผิดตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์หรือไม่ พยานหลักฐานโจทก์และโจทก์ร่วมมีน้ำหนักและเหตุผลมั่นคงรับฟังได้โดยปราศจากข้อสงสัยว่า เลื่อยฉลุไฟฟ้าและเครื่องหินเจียไฟฟ้าที่จำเลยนำไปจำนำเป็นของโจทก์ร่วม และขณะนำไปจำนำจำเลยยังเป็นลูกจ้างโจทก์ร่วม และการที่จำเลยนำเลื่อยฉลุไฟฟ้าและเครื่องหินเจียไฟฟ้าของโจทก์ร่วมไปจำนำแล้วนำเงินที่ได้รับมาใช้ประโยชน์ส่วนตัวนั้นถ้าจำเลยไม่ไถ่คืนภายในเวลาที่กำหนดผู้รับจำนำมีสิทธินำไปขายทอดตลาดได้และทำให้โจทก์ร่วมได้รับความเสียหาย การกระทำของจำเลยถือได้ว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตโดยแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองจึงเป็นความผิดฐานลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้าง คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ข้อนี้ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย แต่การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(11) วรรคแรก ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าผิดตาม มาตรา 335(11) วรรคสอง นั้นยังไม่ถูกต้องเห็นสมควรแก้ไขเสียให้ถูกต้อง
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335(11) วรรคแรก นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share