แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
จำเลยทั้งสองไม่เคยได้รับหมายนัดและสำเนาอุทธรณ์ตลอดจนหมายนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เนื่องจากบ้านเลขที่ตามฟ้องจำเลยทั้งสองใช้เป็นสถานที่สำหรับเก็บยางรถยนต์เก่าเท่านั้น ไม่มีผู้ใดพักอาศัยอยู่เลย แม้จำเลยที่ 2จะมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านตามฟ้อง แต่จำเลยที่ 2ก็ได้อยู่กินฉันสามีภริยากับจำเลยที่ 1 ที่บ้านเลขที่355/17-18 แสดงว่าจำเลยที่ 2 ไม่ได้ใช้บ้านเลขที่ตามฟ้องเป็นสถานที่อยู่อันเป็นแหล่งสำคัญอีกแห่งหนึ่ง กรณีเช่นนี้ต้องถือว่าจำเลยทั้งสองมีภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านเลขที่355/17-18 การที่ศาลชั้นต้นส่งหมายนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้แก่จำเลยทั้งสองที่บ้านเลขที่ตามฟ้องจึงมีเหตุผลเชื่อได้ว่าจำเลยทั้งสองยังไม่ทราบนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เมื่อจำเลยทั้งสองไม่มาศาลย่อมไม่อาจถือได้ว่าจำเลยทั้งสองได้ทราบคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ และถือไม่ได้ว่าศาลชั้นต้นได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้จำเลยทั้งสองฟังโดยชอบแล้วศาลฎีกาชอบที่จะเพิกถอนการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เสียตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ทั้งสองฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์ทั้งสองอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341, 80, 83 ให้จำคุกจำเลยทั้งสองคนละ 6 เดือน คดีถึงที่สุดโดยไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกา
จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องว่า กระบวนพิจารณาตั้งแต่ชั้นส่งหมายนัดและสำเนาอุทธรณ์ถึงชั้นส่งหมายนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขอให้มีคำสั่งเพิกถอนการส่งหมายนัดและสำเนาอุทธรณ์กับหมายนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ โดยให้ศาลชั้นต้นกำหนดให้โจทก์นำส่งหมายนัดและสำเนาอุทธรณ์ให้จำเลยทั้งสองใหม่เพื่อจำเลยทั้งสองจะได้มีโอกาสต่อสู้คดีและกำหนดนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ใหม่
โจทก์ทั้งสองยื่นคำคัดค้านขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องแล้วมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยทั้งสองว่าการส่งสำเนาอุทธรณ์และหมายนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แก่จำเลยทั้งสองเป็นการชอบหรือไม่ จำเลยทั้งสองมีตัวจำเลยทั้งสองเป็นพยานเบิกความว่า จำเลยทั้งสองและครอบครัวพักอาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 355/17-18 ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกาจังหวัดปทุมธานี และใช้เป็นสถานที่ประกอบการค้าด้วยโดยใช้ชื่อว่าห้างหุ้นส่วนจำกัดธงชัยการยาง ซึ่งโจทก์ทั้งสองก็ทราบดีเพราะเคยไปพบกับจำเลยทั้งสองบ่อยครั้ง ส่วนบ้านเลขที่ 24/200แขวงตลาดบางเขน เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นบ้านเลขที่ตามฟ้องนั้นจำเลยทั้งสองใช้เป็นสถานที่สำหรับเก็บยางรถยนต์เก่าไม่มีผู้ใดพักอาศัยอยู่เลย จำเลยทั้งสองไม่เคยได้รับหมายนัดและสำเนาอุทธรณ์ตลอดจนหมายนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ จำเลยทั้งสองเพิ่งทราบว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยทั้งสองเมื่อโจทก์ที่ 2 นำเจ้าพนักงานตำรวจไปจับจำเลยที่ 2ที่ห้างหุ้นส่วนจำกัดธงชัยการยางแต่เป็นระยะเวลาภายหลังจากวันครบกำหนดยื่นฎีกาแล้ว นอกจากนี้จำเลยทั้งสองมีนายสุรพล นวกิจกุล ทนายจำเลยทั้งสองเป็นพยานเบิกความสนับสนุนว่า ในช่วงที่มีการส่งหมายนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์จนถึงวันที่มีการจับจำเลยที่ 2 นั้นพยานได้พบกับทนายโจทก์ทั้งสองหลายครั้ง คือ ที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้4 ครั้ง และที่ศาลจังหวัดธัญบุรีประมาณ 5 ครั้ง โดยคดีที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้เป็นคดีที่ห้างหุ้นส่วนจำกัดธงชัยการยางฟ้องห้างหุ้นส่วนจำกัดวีพีไทร์กับพวก ซึ่งมีโจทก์ที่ 2เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการในมูลหนี้ซื้อขายยางรถยนต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันนัดสืบพยานโจทก์วันที่ 19 เมษายน 2539 จำเลยที่ 2 ก็ไปเบิกความเป็นพยานในคดีดังกล่าวด้วย แต่ทนายโจทก์ทั้งสองไม่เคยแจ้งให้ทราบว่ามีการอุทธรณ์หรือศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แต่อย่างใด เห็นว่าจำเลยทั้งสองเบิกความสอดคล้องกับรายงานการส่งหมายของเจ้าหน้าที่ที่ระบุว่าได้นำหมายนัดไต่สวนมูลฟ้องและสำเนาคำฟ้อง หมายเรียกคดีอาญาหมายนัดและสำเนาอุทธรณ์และหมายนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไปส่งให้แก่จำเลยทั้งสองที่บ้านเลขที่ตามฟ้อง ปรากฏว่าบ้านดังกล่าวปิดใส่กุญแจจึงได้ส่งหมายโดยวิธีปิดหมาย ทั้งโจทก์ทั้งสองมิได้นำสืบหักล้างให้เห็นเป็นอย่างอื่น ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยทั้งสองไม่เคยได้รับหมายนัดและสำเนาอุทธรณ์ตลอดจนหมายนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เนื่องจากบ้านเลขที่ตามฟ้องจำเลยทั้งสองใช้เป็นสถานที่สำหรับเก็บยางรถยนต์เก่าเท่านั้น ไม่มีผู้ใดพักอาศัยอยู่เลยแม้จำเลยที่ 2 จะมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านตามฟ้อง แต่จำเลยที่ 2ก็ได้อยู่กินฉันสามีภริยากับจำเลยที่ 1 ที่บ้านเลขที่ 355/17-18ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี แสดงว่าจำเลยที่ 2ไม่ได้ใช้บ้านเลขที่ตามฟ้องเป็นสถานที่อยู่อันเป็นแหล่งสำคัญอีกแห่งหนึ่งกรณีเช่นนี้ต้องถือว่าจำเลยทั้งสองมีภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านเลขที่ 355/17-18 การที่ศาลชั้นต้นส่งหมายนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้แก่จำเลยทั้งสองที่บ้านเลขที่ตามฟ้องจึงมีเหตุผลเชื่อได้ว่าจำเลยทั้งสองยังไม่ทราบนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เมื่อจำเลยทั้งสองไม่มาศาลย่อมไม่อาจถือได้ว่าจำเลยทั้งสองได้ทราบคำพิพากษาศาลอุทธรณ์และถือไม่ได้ว่าศาลชั้นต้นได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้จำเลยทั้งสองฟังโดยชอบแล้ว ศาลฎีกาชอบที่จะเพิกถอนเสียตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27”
พิพากษากลับ ให้เพิกถอนการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เมื่อวันที่8 มีนาคม 2538 เฉพาะส่วนที่ถือว่าอ่านให้จำเลยทั้งสองฟังแล้วให้ศาลชั้นต้นนัดจำเลยทั้งสองมาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ใหม่แล้วดำเนินการต่อไป