แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยทำสัญญายินยอมชำระหนี้แก่โจทก์แทน ส. บุตรจำเลยเป็นการตอบแทนที่ขอให้โจทก์ถอนฟ้องคดีอาญาที่โจทก์ฟ้อง ส.ในความผิดฐานแจ้งความเท็จ เบิกความเท็จ และนำสืบพยานหลักฐานอันเป็นเท็จ ซึ่งเป็นคดีอาญาแผ่นดิน วัตถุประสงค์ของสัญญาดังกล่าวเป็นการตกลงให้ระงับคดีอาญาแผ่นดินขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชนสัญญาตกเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 113(เดิม)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เดิมโจทก์ฟ้องนายสัมพันธ์ ปิตินานนท์ต่อศาลชั้นต้น ตามคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 4371/2530 ของศาลชั้นต้นศาลชั้นต้นพิพากษาให้นายสัมพันธ์ชำระหนี้แก่โจทก์ คดีถึงที่สุดแล้ว โจทก์ได้ฟ้องนายสัมพันธ์เป็นคดีอาญาข้อหาแจ้งความเท็จเบิกความเท็จ และนำสืบพยานหลักฐานอันเป็นเท็จ ระหว่างการพิจารณาคดีจำเลยซึ่งเป็นบิดาของนายสัมพันธ์มาขอร้องโจทก์ให้ถอนฟ้องคดีอาญาโดยจำเลยทำหนังสือสัญญาชำระหนี้แทนนายสัมพันธ์ให้แก่โจทก์เป็นเงินจำนวน 70,000 บาท โจทก์จึงถอนฟ้องคดีอาญาดังกล่าวเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2531 ในวันเดียวกับที่จำเลยทำหนังสือสัญญาชำระหนี้ให้แก่โจทก์ แต่จำเลยไม่ชำระเงินแก่โจทก์ตามสัญญา ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินต้นและดอกเบี้ยถึงวันฟ้องเป็นเงิน 72,391.12 บาทแก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปีในต้นเงิน 70,000 บาทนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยให้การว่า โจทก์ให้จำเลยทำสัญญาชำระเงินให้แก่โจทก์จำนวน 70,000 บาท เพื่อเป็นการตอบแทนที่โจทก์จะถอนฟ้องคดีอาญาสัญญาดังกล่าวจึงเป็นโมฆะ เพราะมีวัตถุประสงค์ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นเห็นว่า คดีพอวินิจฉัยได้แล้วจึงให้งดชี้สองสถานและพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 72,391.12 บาท แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ในต้นเงิน 70,000 บาท นับแต่วันถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระให้โจทก์เสร็จ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงได้ความว่า เดิมศาลชั้นต้นพิพากษาให้นายสัมพันธ์ชำระหนี้แก่โจทก์ คดีถึงที่สุด ต่อมาโจทก์ฟ้องนายสัมพันธ์ในความผิดฐานแจ้งความเท็จ เบิกความเท็จ และนำสืบพยานหลักฐานอันเป็นเท็จต่อศาลอาญาธนบุรี ระหว่างการพิจารณาคดีอาญาดังกล่าว โจทก์จำเลยตกลงกันให้โจทก์ถอนฟ้อง โดยจำเลยรับจะชำระหนี้ของนายสัมพันธ์ให้แก่โจทก์แทน และโจทก์ได้ถอนฟ้องคดีอาญาดังกล่าวแล้ว ปรากฏว่าจำเลยผิดนัดไม่ชำระเงินให้แก่โจทก์ตามสัญญา โจทก์จึงฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้ พิเคราะห์ข้อตกตามหนังสือสัญญาท้ายฟ้องว่าจำเลยตกลงยินยอมชำระหนี้แทนนายสัมพันธ์เป็นการตอบแทนที่ขอให้โจทก์ถอนฟ้องคดีที่โจทก์ฟ้องนายสัมพันธ์ในข้อหาความผิดฐานแจ้งความเท็จเบิกความเท็จ และนำสืบพยานหลักฐานอันเป็นเท็จซึ่งเป็นคดีอาญาแผ่นดินนั้น เห็นว่า สัญญาดังกล่าวมีลักษณะเป็นสัญญาต่างตอบแทน คือ จำเลยมีหน้าที่ต้องชำระหนี้แทนนายสัมพันธ์ให้แก่โจทก์ และโจทก์มีหน้าที่ไม่เอาผิดในคดีอาญาที่นายสัมพันธ์ถูกโจทก์ฟ้อง เห็นได้ว่าที่จำเลยทำสัญญาจะใช้หนี้แทนนายสัมพันธ์ซึ่งเป็นบุตรให้แก่โจทก์ ก็โดยมุ่งประสงค์ให้โจทก์ถอนฟ้องไม่ให้เอาผิด แก่นายสัมพันธ์เป็นการตอบแทนกันวัตถุประสงค์ของสัญญาเป็นการตกลงให้ระงับคดีอาญาแผ่นดินขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชนสัญญาตกเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 113 (เดิม)
พิพากษายืน