คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3744/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้การที่บริษัทโจทก์มอบอำนาจให้ผู้แทนฟ้องคดีโดยกรรมการสองคนลงลายมือชื่อในใบมอบอำนาจโดยไม่ได้ประทับตราสำคัญของบริษัทโจทก์ ทำให้ใบมอบอำนาจนั้นไม่สมบูรณ์ก็ตามแต่ก่อนพิพากษาศาลย่อมมีอำนาจให้โจทก์แก้ไขข้อบกพร่องเกี่ยวกับใบมอบอำนาจให้ฟ้องและดำเนินคดีแทนได้ตามที่เห็นสมควรเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม โดยสั่งให้โจทก์ทำใบมอบอำนาจที่สมบูรณ์เข้ามาใหม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด ได้มอบอำนาจให้นาย ค. ฟ้องและดำเนินคดีแทน เมื่อประมาณเดือนกรกฎาคม ๒๕๒๖ จำเลยได้ออกเช็คธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขาสกลนคร ๓ ฉบับ แลกเงินสดไปจากโจทก์ ต่อมาธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินเช็คทั้งสามฉบับ ขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.๒๔๙๗ มาตรา ๓
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูลให้ประทับฟ้อง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.๒๔๙๗ มาตรา ๓ ให้จำคุก ๒ เดือน ข้อนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุก ๑ เดือน ๑๐ วัน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า หนังสือมอบอำนาจให้นาย ค. ฟ้องและดำเนินคดีแทนโจทก์ไม่ได้ประทับตราสำคัญของบริษัทโจทก์ นาย ค. จึงไม่มีอำนาจลงลายมือชื่อในคำฟ้องแทนโจทก์ ฟ้องโจทก์ไม่ชอบ แม้โจทก์ยื่นคำร้องในภายหลังขอประทับตราสำคัญของบริษัทโจทก์ในช่องผู้มอบอำนาจและศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าเป็นการให้สัตยาบันแก่การที่ผู้รับมอบอำนาจกระทำไป จึงอนุญาตให้ทำใบมอบอำนาจเข้ามาใหม่ก็ตาม โจทก์ก็ไม่อาจแก้ไขฟ้องโจทก์ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายมาแต่ต้นได้ พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว คดีมีปัญหาว่า ข้อบังคับของบริษัทโจทก์ระบุให้กรรมการสองคนลงลายมือชื่อและประทับตราสำคัญของบริษัท ผูกพันบริษัทได้ โจทก์มอบอำนาจให้นายศุภกรฟ้องและดำเนินคดีแทน โดยกรรมการ ๒ คน ลงลายมือชื่อในใบมอบอำนาจ แต่ไม่ได้ประทับตราสำคัญของบริษัท ศาลชั้นต้นมีอำนาจอนุญาตให้โจทก์ทำใบมอบอำนาจเข้ามาใหม่ได้หรือไม่ ศาลฎีกาเห็นว่า แม้ใบมอบอำนาจให้ฟ้องและดำเนินคดีแทนของบริษัทโจทก์ไม่ได้ประทับตราสำคัญของบริษัท ซึ่งย่อมทำให้ใบมอบอำนาจไม่สมบูรณ์ แต่ก่อนพิพากษาศาลมีอำนาจให้แก่ไขข้อบกพร่องเกี่ยวกับใบมอบอำนาจให้ฟ้องและดำเนินคดีแทนได้ตามที่เห็นสมควรเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ฉะนั้น ศาลชั้นต้นจึงมีอำนาจอนุญาตให้ดำเนินการแก้ไขข้อบกพร่องเพียงบางส่วนของใบมอบอำนาจให้ฟ้องและดำเนินคดีแทนโดยสั่งให้โจทก์ทำใบมอบอำนาจที่สมบูรณ์เข้ามาใหม่ได้ เทียบได้นัยคำพิพากษาฎีกาที่ ๒๘๘๖/๒๕๒๔
พิพากษายกคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาและพิพากษาใหม่ตามรูปคดี.

Share