คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3739/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 ที่ 2 ซึ่งเป็นทายาทผู้รับมรดกให้ปฏิบัติตามสัญญาต่างตอบแทนที่โจทก์ทำไว้กับเจ้ามรดก มิใช่ฟ้องอ้างว่าเจ้ามรดกผิดสัญญาอันเป็นการใช้สิทธิเรียกร้องที่มีต่อเจ้ามรดกจึงนำอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1754 วรรคสามมาใช้บังคับไม่ได้ โจทก์ไม่ต้องใช้สิทธิฟ้องร้องภายใน 1 ปี

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องว่า โจทก์กับนางสงวนศรี สามัคคีนนท์เจ้าของที่ดินตกลงกันให้โจทก์ทำการก่อสร้างตึกแถวประมาณ 120 ห้องตลาดสด 1 ตลาด ตลาดขายผ้า 1 ตลาด และสิ่งก่อสร้างอีกหลายรายการลงในที่ดินของนางสงวนศรี โดยโจทก์เป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายนางสงวนศรี จะต้องดำเนินการให้ที่ดินอยู่ในสภาพว่างเปล่า เมื่อสร้างเสร็จโจทก์มีสิทธิเก็บเงินค่าก่อสร้างจากผู้มาเช่า ส่วนกรรมสิทธิ์ตกเป็นของนางสงวนศรี ต่อมานางสงวนศรีถึงแก่ความตายมีจำเลยที่ 1 เป็นผู้จัดการมรดก จำเลยที่ 2 เป็นผู้รับมรดกที่ดินแปลงนี้ตามพินัยกรรม จำเลยที่ 1 และที่ 2 ต่างยอมรับปฏิบัติตามสัญญาต่อมาจำเลยที่ 1 และที่ 2 เพิกเฉย เดือนสิงหาคม 2516 จำเลยที่ 1และที่ 2 ร่วมกับจำเลยที่ 3 เข้าปลูกสร้างอาคารในที่ดิน โดยจำเลยที่ 3 รู้อยู่แล้วว่าโจทก์มีสิทธิแต่เพียงผู้เดียวตามสัญญาทำให้โจทก์เสียหาย ขอให้จำเลยที่ 1 และที่ 2 ปฏิบัติตามสัญญาให้จำเลยที่ 3 ระงับและงดเว้นการก่อสร้าง ส่วนที่ก่อสร้างไว้แล้วให้รื้อออกไป หากไม่ปฏิบัติตามให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระค่าเสียหายรวม 11,906,150 บาท ให้โจทก์พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในจำนวนเงิน 524,000 บาท
จำเลยทั้งสามให้การว่า ที่ดินที่จะก่อสร้างอาคารมีเนื้อที่ประมาณ 20 ไร่เท่านั้น โจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญา และจำเลยที่ 1และที่ 2 ได้บอกเลิกสัญญาแล้ว ค่าโอนสิทธิตามสัญญาโจทก์สมัครใจเสียเอง โจทก์ฟ้องคดีเกิน 1 ปี นับแต่วันที่นางสงวนศรีถึงแก่ความตาย คดีของโจทก์ขาดอายุความ ขอให้ยกฟ้อง และจำเลยที่ 3ฟ้องแย้งให้โจทก์ใช้ค่าเสียหาย 310,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องแย้งและค่าเสียหายวันละ 5,000 บาทตั้งแต่วันฟ้องแย้งจนกว่าจะชำระเสร็จ
โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งว่า จำเลยที่ 3 เป็นฝ่ายละเมิดสิทธิของโจทก์ ขอให้ยกฟ้องแย้ง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 ปฏิบัติตามสัญญาโดยจัดการให้ผู้เช่า ผู้อาศัยในที่ดินออกไปให้หมด โดยให้โจทก์เป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ในราคาท้องตลาด และให้จำเลยที่ 1 ที่ 2ส่งมอบที่ดินว่างเปล่าทั้งแปลงให้โจทก์เพื่อทำการปลูกสร้างตึกแถวและตลาดตามสัญญากับห้ามมิให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 ยินยอมให้ผู้อื่นเข้าก่อสร้างอาคารใด ๆ ลงไปในที่ดินแปลงนี้ ให้จำเลยที่ 3 ระงับการปลูกสร้างอาคารใด ๆ ลงไปในที่ดินโฉนดเลขที่ 1498 ส่วนที่ปลูกสร้างแล้วให้รื้อถอน หากจำเลยทั้งสามไม่ปฏิบัติตาม ให้ร่วมกันชำระค่าเสียหายรวมเป็นเงิน 10,273,500 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในจำนวนเงิน 524,000 บาท นับแต่วันพิพากษาเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยทั้งสามอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 ปฏิบัติตามสัญญาโดยจัดการให้ผู้เช่าผู้อาศัยในที่ดินโฉนดเลขที่ 1498ส่วนที่เป็นตลาดเก่าเนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ ออกไปจากที่ดินพิพาทโดยให้โจทก์เป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในราคาท้องตลาด ให้จำเลยที่ 1ที่ 2 ส่งมอบที่ดินพิพาทในสภาพว่างเปล่าให้โจทก์เพื่อทำการปลูกสร้างตึกแถวและตลาดตามสัญญา ห้ามมิให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 ยินยอมให้ผู้อื่นเข้าไปก่อสร้างอาคารใด ๆ ลงในที่ดินพิพาท กับให้จำเลยที่ 2 ระงับการปลูกสร้างอาคารใด ๆ ลงในที่ดินพิพาท ส่วนที่ปลูกสร้างลงไปแล้วให้รื้อถอนออกไป หากจำเลยทั้งสามไม่สามารถปฏิบัติตามก็ให้ร่วมกันชำระค่าเสียหายเป็นเงิน 2,600,000 บาท แก่โจทก์
โจทก์และจำเลยทั้งสามฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า ในปัญหาว่าคดีโจทก์ขาดอายุความ เพราะฟ้องคดีเกิน 1 ปี นับแต่เจ้ามรดกถึงแก่กรรมนั้นเห็นว่า สัญญาเอกสารหมาย จ.3 ที่โจทก์ทำไว้กับนางสงวนศรีเป็นสัญญาต่างตอบแทน เมื่อนางสงวนศรีถึงแก่กรรม สิทธิและหน้าที่ตามสัญญาย่อมตกทอดแก่ทายาทคือจำเลยที่ 2 ให้ต้องผูกพันตามสัญญาส่วนจำเลยที่ 1 ในฐานะผู้จัดการมรดกย่อมมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามสัญญาด้วย โจทก์ฟ้องอ้างว่าจำเลยที่ 1 และที่ 2 ผิดสัญญา ขอให้บังคับจำเลยดังกล่าวปฏิบัติตามสัญญา มิใช่ฟ้องอ้างว่านางสงวนศรีผิดสัญญามาก่อนแล้ว กรณีจึงมิใช่ฟ้องโดยอ้างสิทธิเรียกร้องอันมีต่อนางสงวนศรีเจ้ามรดก จะนำอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1754 วรรคสาม มาใช้บังคับหาได้ไม่ คดีของโจทก์จึงยังไม่ขาดอายุความ
พิพากษาแก้เป็นว่า หากจำเลยที่ 1 และที่ 2 ไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาคือส่งมอบที่ดินโฉนดเลขที่ 1498 บริเวณที่เป็นตลาดเก่าเนื้อที่ 20 ไร่เศษให้แก่โจทก์ได้ ให้จำเลยทั้งสามร่วมกันใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์รวม 2,395,900 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในจำนวนเงิน 521,150 บาท นับแต่วันที่ศาลพิพากษาเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเงินเสร็จ

Share