แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผ. เจ้ามรดกได้ทำพินัยกรรมยกที่ดินมรดกให้แก่จำเลยเพียงผู้เดียว โจทก์เป็นทายาทโดยธรรมของ ผ. แต่โจทก์มิได้รับประโยชน์จากพินัยกรรมดังกล่าว จึงเป็นผู้ถูกตัดมิให้รับมรดก โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องขอแบ่งที่ดินมรดกของ ผ. ผ. ได้ทำพินัยกรรมแบบเอกสารฝ่ายเมืองยกทรัพย์มรดกให้แก่จำเลย ต่อมาพินัยกรรมดังกล่าวถูกปลวกกินทำลายไปโดยเหตุสุดวิสัย จึงชอบที่ศาลจะอนุญาตให้จำเลยนำพยานบุคคลมาสืบได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 93(2) ซึ่งไม่อยู่ในบทบังคับที่จะต้องปฏิบัติตาม มาตรา 94 วรรคหนึ่ง (ก)และ(ข)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์และจำเลยทั้งสี่เป็นบุตรของนายพันกับนางผิว อิ่มอก โจทก์ นางผิว สิบตำรวจโท ผ่อง อิ่มอก และผู้มีชื่ออีก 5 คน เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมในที่ดินโฉนดที่ 5339 เนื้อที่ 9 ไร่ 2 งาน 20 ตารางวา ส่วนของนางผิวมีอยู่ 1 ไร่ 80 ตารางวา ต่อมาสิบตำรวจโทผ่องยกที่ดินส่วนของตนให้แก่นางผิวอีก 1 ไร่ 80 ตารางวา นางผิวจึงมีกรรมสิทธิ์รวมในที่ดินแปลงดังกล่าว เป็นเนื้อที่ 2 ไร่ 1 งาน 60 ตารางวา ครั้นวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2537 นางผิวได้ถึงแก่ความตาย ที่ดินส่วนของนางผิวดังกล่าวจึงตกทอดแก่สามีและบุตรของนางผิวต่อมานายพันสามีของนางผิวได้ถึงแก่ความตายลงอีกคน ทรัพย์มรดกของนางผิว จึงตกทอดแก่บุตรทั้งหกคนของนางผิว ซึ่งรวมทั้งโจทก์และจำเลยทั้งสี่โจทก์มีสิทธิรับมรดกของนางผิวในที่ดินดังกล่าวเป็นเนื้อที่ 1 งาน 60 ตารางวา โจทก์ติดต่อให้จำเลยทั้งสี่แบงให้แก่โจทก์ แต่ต่างเพิกเฉย ขอให้บังคับจำเลยทั้งสี่แบ่งมรดกที่ดินโฉนดเลขที่ 5339 ดังกล่าว เนื้อที่จำนวน 1 งาน 60 ตารางวา ราคา 320,000 บาท ให้แก่โจทก์
จำเลยทั้งสี่ให้การว่า เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2539 นางผิวได้ทำพินัยกรรมแบบเอกสารฝ่ายเมือง แสดงเจตนายกทรัพย์มรดกของตนที่มีอยู่ในขณะนั้นและที่จะเกิดมีขึ้นในภายหลังให้แก่จำเลยที่ 4 แต่เพียงผู้เดียว ทายาทคนอื่นจึงไม่มีสิทธิรับมรดกของนางผิว จำเลยทั้งสี่ไม่มีหน้าที่ต้องแบ่งปันทรัพย์มรดกดังกล่าวให้แก่โจทก์ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า นางผิวได้ทำพินัยกรรมแบบเอกสารฝ่ายเมืองยกทรัพย์มรดกให้แก่จำเลยที่ 4 ที่ดินโฉนดเลขที่ 5339 ตำบลบ้านปทุม (บ้านพร้าวฝั่งเหนือ) อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี ในส่วนของนางผิวจึงตกได้แก่จำเลยที่ 4 แต่เพียงผู้เดียว โจทก์เป็นทายาทโดยธรรมของนางผิว แต่มิได้รับประโยชน์จากพินัยกรรม จึงเป็นผู้ถูกตัดมิให้รับมรดก ไม่มีสิทธิฟ้องคดีขอแบ่งที่ดินมรดกของนางผิว
ส่วนฎีกาของโจทก์ว่า การที่จำเลยทั้ง 4 ไม่สามารถนำพินัยกรรมแบบเอกสารฝ่ายเมืองของนางผิวมาแสดง จึงต้องห้ามมิให้ศาลรับฟังพยานบุคคลแทนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94(ก) นั้น เห็นว่า เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า นางผิวได้ทำพินัยกรรมแบบเอกสารฝ่ายเมืองยกทรัพย์มรดกให้แก่จำเลยที่ 4 และพินัยกรรมดังกล่าวถูกปลวกกินทำลายไปโดยเหตุสุดวิสัยก็ชอบที่ศาลชั้นต้นจะอนุญาตให้จำเลยทั้ง 4 นำพยานบุคคลมาสืบได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 93(2) ซึ่งไม่อยู่ในบทบังคับที่จะต้องปฏิบัติตามมาตรา 94 วรรคหนึ่ง(ก) และ(ข) แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
พิพากษายืน