คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3734/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 ที่ 2 ซึ่งเป็นทายาทผู้รับมรดกให้ปฏิบัติตามสัญญาต่างตอบแทนที่โจทก์ทำไว้กับเจ้ามรดก มิใช่ฟ้องอ้างว่าเจ้ามรดกผิดสัญญาอันเป็นการใช้สิทธิเรียกร้องที่มีต่อเจ้ามรดกจึงนำอายุความตาม ป.พ.พ. มาตรา 1754 วรรคสาม มาใช้บังคับไม่ได้ โจทก์ไม่ต้องใช้สิทธิฟ้องร้องภายใน 1 ปี

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องว่า โจทก์กับนางสงวนศรี สามัคคีนนท์ เจ้าของที่ดินตกลงกันให้โจทก์ทำการก่อสร้างตึกแถวประมาณ ๑๒๐ ห้อง ตลาดสด ๑ ตลาด ตลาดขายผ้า ๑ ตลาด และสิ่งก่อสร้างอีกหลายรายการลงในที่ดินของนางสงวนศรี โดยโจทก์เป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย นางสงวนศรีจะต้องดำเนินการให้ที่ดินอยู่ในสภาพว่างเปล่า เมื่อสร้างเสร็จโจทก์มีสิทธิเก็บเงินค่าก่อสร้างจากผู้มาเช่า ส่วนกรรมสิทธิ์ตกเป็นของนางสงวนศรี ต่อมานางสงวนศรีถึงแก่ความตาย มีจำเลยที่ ๑ เป็นผู้จัดการมรดก จำเลยที่ ๒ เป็นผู้รับมรดกที่ดินแปลงนี้ตามพินัยกรรม จำเลยที่ ๑ และที่ ๒ ต่างยอมรับปฏิบัติตามสัญญา ต่อมาจำเลยที่ ๑ และที่ ๒ เพิกเฉย เดือนสิงหาคม ๒๕๑๖ จำเลยที่ ๑ และที่ ๒ ร่วมกับจำเลยที่ ๓ เข้าปลูกสร้างอาคารในที่ดิน โดยจำเลยที่ ๓ รู้อยู่แล้วว่าโจทก์มีสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียวตามสัญญา ทำให้โจทก์เสียหาย ขอให้จำเลยที่ ๑ และที่ ๒ ปฏิบัติตามสัญญา ให้จำเลยที่ ๑ ระงับและงดเว้นการก่อสร้าง ส่วนที่ก่อสร้างไว้แล้วให้รื้อออกไป หากไม่ปฏิบัติตาม ให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระค่าเสียหายรวม ๑๑,๔๐๖,๑๕๐ บาท ให้โจทก์พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในจำนวนเงิน ๕๒๔,๐๐๐ บาท
จำเลยทั้งสามให้การว่า ที่ดินที่จะก่อสร้างอาคารมีเนื้อที่ประมาณ ๒๐ ไร่เท่านั้น โจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญา และจำเลยที่ ๑ และที่ ๒ ได้บอกเลิกสัญญาแล้ว ค่าโอนสิทธิตามสัญญาโจทก์สมัครใจเสียเอง โจทก์ฟ้องคดีเกิน ๑ ปี นับแต่วันที่นางสงวนศรีถึงแก่ความตาย คดีของโจทก์ขาดอายุความ ขอให้ยกฟ้อง และจำเลยที่ ๓ ฟ้องแย้งให้โจทก์ใช้ค่าเสียหาย ๓๑๐,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องแย้งและค่าเสียหายวันละ ๕,๐๐๐ บาท ตั้งแต่วันฟ้องแย้งจนกว่าจะชำระเสร็จ
โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งว่า จำเลยที่ ๓ เป็นฝ่ายละเมิดสิทธิของโจทก์ ขอให้ยกฟ้องแย้ง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ปฏิบัติตามสัญญาโดยจัดการให้ผู้เช่าผู้อาศัยในที่ดินออกไปให้หมด โดยให้โจทก์เป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ในราคาท้องตลาด และให้จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ส่งมอบที่ดินว่างเปล่าทั้งแปลงให้โจทก์เพื่อทำการปลูกสร้างตึกแถวและตลาดตามสัญญากับห้ามมิให้จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ยินยอมให้ผู้อื่นเข้าก่อสร้างอาคารใด ๆ ลงไปในที่ดินแปลงนี้ ให้จำเลยที่ ๓ ระงับการปลูกสร้างอาคารใด ๆ ลงไปในที่ดินโฉนดเลขที่ ๑๔๔๘ ส่วนที่ปลูกสร้างแล้วให้รื้อถอน หากจำเลยทั้งสามไม่ปฏิบัติตาม ให้ร่วมกันชำระค่าเสียหายรวมเป็นเงิน ๑๐,๒๗๓,๕๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในจำนวนเงิน ๕๒๔,๐๐๐ บาท นับแต่วันพิพากษาเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยทั้งสามอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ปฏิบัติตามสัญญาโดยจัดการให้ผู้เช่าผู้อาศัยในที่ดินโฉนดเลขที่ ๑๔๔๘ ส่วนที่เป็นตลาดเก่าเนื้อที่ประมาณ ๒๐ ไร่ ออกไปจากที่ดินพิพาท โดยให้โจทก์เป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในราคาท้องตลาด ให้จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ส่งมอบที่ดินพิพาทในสภาพว่างเปล่าให้โจทก์เพื่อทำการปลูกสร้างตึกแถวและตลาดตามสัญญา ห้ามมิให้จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ยินยอมให้ผู้อื่นเข้าไปก่อสร้างอาคารใด ๆ ลงในที่ดินพิพาท กับให้จำเลยที่ ๒ ระงับการปลูกสร้างอาคารใด ๆ ลงในที่ดินพิพาท ส่วนที่ปลูกสร้างลงไปแล้วให้รื้อถอนออกไป หากจำเลยทั้งสามไม่สามารถปฏิบัติตามก็ให้ร่วมกันชำระค่าเสียหายเป็นเงิน ๒,๖๐๐ ๐๐๐ บาท แก่โจทก์
โจทก์และจำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า ในปัญหาว่าคดีโจทก์ขาดอายุความ เพราะฟ้องคดีเกิน ๑ ปี นับแต่เจ้ามรดกถึงแก่กรรมนั้น เห็นว่า สัญญาเอกสารหมาย จ.๓ ที่โจทก์ทำไว้กับนางสงวนศรีเป็นสัญญาต่างตอบแทน เมื่อนางสงวนศรีถึงแก่กรรม สิทธิและหน้าที่ตามสัญญาย่อมตกทอดแก่ทายาทคือจำเลยที่ ๒ ให้ต้องผูกพันตามสัญญา ส่วนจำเลยที่ ๑ ในฐานะผู้จัดการมรดกย่อมมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามสัญญาด้วย โจทก์ฟ้องอ้างว่าจำเลยที่ ๑ และที่ ๒ ผิดสัญญา ขอให้บังคับจำเลยดังกล่าวปฏิบัติตามสัญญา มิใช่ฟ้องอ้างว่านางสงวนศรีผิดสัญญามาก่อนแล้ว กรณีจึงมิใช่ฟ้องโดยอ้างสิทธิเรียกร้องอันมีต่อนางสงวนศรีเจ้ามรดก จะนำอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๗๕๔ วรรคสาม มาใช้บังคับหาได้ไม่ คดีของโจทก์จึงยังไม่ขาดอายุความ
พิพากษาแก้เป็นว่า หากจำเลยที่ ๑ และที่ ๒ ไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาคือส่งมอบที่ดินโฉนดเลขที่ ๑๔๔๘ บริเวณที่เป็นตลาดเก่า เนื้อที่ ๒๐ ไร่เศษให้แก่โจทก์ได้ให้จำเลยทั้งสามร่วมกันใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์รวม ๒,๓๔๕,๔๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในจำนวนเงิน ๕๒๐,๑๕๐ บาท นับแต่วันที่ศาลพิพากษาเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเงินเสร็จ

Share