คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 372/2500

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฝากั้นห้องจะเป็นส่วนควบของอาคารที่จำเลยเช่าจากโจทก์มาทำโรงแรมหรือไม่ จะต้องพิจารณาถึงสภาพของทรัพย์อย่างหนึ่งหรือตามจารีตประเพณีแห่งท้องถิ่นอีกอย่างหนึ่งว่าฝาที่กั้นเป็นห้องนั้นเป็นสาระสำคัญในความเป็นอยู่ของอาคารที่จำเลยเช่าจากโจทก์หรือไม่ หากตามสภาพของฝาที่กั้นเป็นห้องเป็นทรัพย์ที่อาจแยกออกจากตัวอาคารได้โดยมิได้เป็นการทำลายอาคารหรือทำให้อาคารบุบสลายหรือเปลี่ยนแปลงรูปทรงแต่อย่างใด ฝากั้นเป็นห้องหาเป็นสาระสำคัญของอาคารไม่ และโจทก์มิได้นำสืบถึงจารีตประเพณีแห่งท้องถิ่นฝากั้นห้องนั้นก็ไม่ถือเป็นส่วนควบของอาคาร

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าต้นเดือนกุมภาพันธ์ 98 จำเลยบังอาจรื้อถอนห้องพักแรมที่ผู้มีชื่อต่อเติมและยกให้โจทก์นั้นเสีย 3 ห้องราคา 12,000 บาท ทำให้โจทก์เสียหาย ขอให้ศาลบังคับให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย 12,000 บาท พร้อมทั้งดอกเบี้ยร้อยละ 7 ครึ่งต่อปีจนกว่าจะชำระเงินเสร็จ

จำเลยให้การต่อสู้ว่าเดิมบิดาจำเลยได้เช่าห้องโจทก์เพื่อทำโรงแรมและขายเครื่องดื่มประมาณ 10 ปีเศษมานี้บิดาจำเลยตายจำเลยเป็นผู้เช่าประกอบการค้าต่อมาจนทุกวันนี้ การเช่าเดิมไม่มีสัญญาต่อกันบิดาเป็นผู้กั้นชั้นบนเพื่อทำเป็นโรงแรม บิดาตายแล้วจำเลยกั้นชั้นล่าง การกั้นชั้นบนชั้นล่างก็ดีไม่เคยมีสัญญาหรือข้อความตกลงเลยว่าเมื่อกั้นแล้วผู้เช่าจะยกห้องที่กั้นให้เป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ การกั้นห้องเป็นประเพณีของการค้าที่ทำเป็นโรงแรมหาได้ตกลงดังโจทก์ฟ้องไม่ เมื่อ พ.ศ. 2497 โจทก์ยื่นฟ้องขับไล่จำเลย แต่ได้ทำความประนีประนอมกันชั้นศาลโดยจำเลยเสียเงินให้โจทก์หมื่นแปดพันบาทพร้อมทั้งค่าเช่าอีกเดือนละ 180 บาท งานค้าทางโรงแรมขาดทุน จำเลยเลิกทำโรงแรมตั้งแต่วันที่ทำสัญญากับโจทก์ เปลี่ยนเป็นทำการขายเครื่องดื่ม จำเลยจึงรื้อห้องที่กั้นเพื่อขยายเพื่อที่จำหน่ายเครื่องดื่ม จำเลยได้ทาสีตึกให้งดงามเสียเงินไป 3,000 ถึง 4,000 บาท การรื้อไม่ทำให้โจทก์เสียหาย โจทก์เคยเดินผ่านไปแต่ไม่ว่ากล่าว ขอให้ยกฟ้อง

ศาลจังหวัดอุดรธานีพิจารณาแล้วพิพากษาให้ยกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกาทั้งในข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย

ศาลฎีกาตรวจสำนวนและประชุมปรึกษาคดีนี้แล้ว ในทางข้อเท็จจริงฟังว่าพยานจำเลยมีน้ำหนักดีกว่าพยานโจทก์เชื่อได้ว่าจำเลยเป็นผู้กั้นห้อง จำนวนห้องตามบัญชีโรงแรมที่โจทก์อ้างมานั้นไม่ได้ความว่าเป็นห้องที่กั้นขึ้นแต่เมื่อครั้งปิด จำเลยหรือเมื่อครั้งจำเลยเช่า ทั้งไม่ปรากฏว่าเป็นห้องชั้นบนหรือชั้นล่างจึงไม่เป็นหลักฐานอันจะเป็นประโยชน์แก่คดีโจทก์

ฝากั้นเป็นห้อง ๆ เหล่านี้จะเป็นส่วนควบของอาคาร จำเลยเช่าจากโจทก์ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 107 หรือไม่นั้นจะต้องพิจารณาถึงสภาพของทรัพย์อย่างหนึ่งหรือตามจารีตประเพณีแห่งท้องถิ่นอีกอย่างหนึ่งว่าฝาที่กั้นเป็นห้องนั้นเป็นสาระสำคัญในความเป็นอยู่ของอาคารที่จำเลยเช่าจากโจทก์หรือไม่ ศาลฎีกาเห็นว่าตามสภาพของฝาที่กั้นเป็นห้องหาเป็นสาระสำคัญของอาคารไม่เพราะฝากั้นห้องเป็นทรัพย์ที่อาจแยกออกจากตัวอาคารได้ โดยมิได้เป็นการทำลายอาคารหรือทำให้อาคารบุบสลายหรือเปลี่ยนแปลงรูปทรงแต่อย่างไร และโจทก์มิได้นำสืบถึงจารีตประเพณีแห่งท้องถิ่นฉะนั้นฝากั้นห้องไม่เป็นส่วนควบของอาคาร ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้นให้ยกพิพากษายืน

Share