แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้อง จำเลย 6 คนว่า สมคบกันมีมีดและไม้ตะพูดเป็นสาตราวุธเป็นคนร้ายปล้นโค ขอให้ ลงโทษตาม ม. 301 – 63 เมื่อ จำเลยเข้าใจข้อหาดีแล้วว่าต้องหาเรื่องอะไรฟ้องเช่นนี้ ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยสมคบกันมีมีดและไม้ตะพดเป็นสาตราวุธเป็นคนร้ายปล้นโคของนายเผื่อน ขอให้ ลงโทษตาม กฎหมายลักษณะอาญามาตรา ๓๐๑
จำเลยให้การปฏิเสธต่อสู้อ้างฐานที่อยู่และว่าพอเดินทางกลับบ้านก็ถูกจับหาว่าปล้นทรัพย์
ศาลชั้นต้นเห็นว่า ฟ้องเช่นนี้ไม่อาจให้จำเลยเข้าใจว่า ตนถูกฟ้องว่ากระทำอย่างไร จึงจะเป็นผิดฐานปล้น เป็นฟ้องเคลือบคลุมจึงงดสืบพะยานและ พิพากษายกฟ้อง โจทก์
ศาลฎีกาเห็นว่าโจทก์กล่าวในฟ้องว่า จำเลยมีมีดและไม้ตะพดเป็นสาตราวุธสมคบกันบังอาจเป็นคนร้ายปล้นโคของนายเผื่อน ฯลฯ และขอให้ ลงโทษ จำเลยตามมาตรา ๓๐๑ – ๖๓ ดังนี้ จำเลยเข้าใจข้อหาดีแล้วว่าต้องหาเรื่องอะไร จึงต่อสู้ว่าไม่ได้ทำผิด ฟ้องของ โจทก์จึงไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม พิพากษายืนตาม ศาลอุทธรณ์ที่สั้งให้ ศาลชั้นต้นดำเนินการสืบพะยานและ พิพากษาคดีต่อไป