คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3715/2550

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งไม่มีบทบัญญัติที่ให้อำนาจเจ้าพนักงานบังคับคดีมีคำสั่งเพิกถอนการยึดทรัพย์ด้วยตนเอง คงมีแต่เรื่องถอนการบังคับคดีตาม ป.วิ.พ. มาตรา 295
เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีว่าทรัพย์ที่ยึดมิใช่ทรัพย์ของจำเลย เจ้าพนักงานบังคับคดีต้องแจ้งไปยังโจทก์ผู้ทำการยึดว่าโจทก์ประสงค์จะดำเนินการต่อไปอย่างไร ซึ่งการถอนการยึดเป็นสิทธิของโจทก์ที่จะยื่นคำขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการให้ หรือเจ้าพนักงานบังคับคดีต้องแจ้งไปยังศาลเพื่อให้มีคำสั่งเพิกถอนการยึด การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีมีคำสั่งเพิกถอนการยึดเสียเองจึงเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติว่าด้วยการบังคับจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องจำเลยว่าผิดสัญญา ต่อมาโจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความ ศาลพิพากษาตามยอมให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์จำนวน 11,066,100 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 31 มีนาคม 2542 แต่จำเลยไม่ชำระ โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินโฉนดเลขที่ 197791 ตำบลคลองกุ่ม อำเภอบางกะปิ กรุงเทพมหานคร พร้อมสิ่งปลูกสร้าง ต่อมาเจ้าพนักงานบังคับคดีถอนการยึด เนื่องจากที่ดินแปลงดังกล่าวมิใช่ทรัพย์ของจำเลย และแจ้งให้โจทก์ชำระค่าธรรมเนียมยึดแล้วไม่มีการขายทอดตลาดและค่าใช้จ่ายชั้นบังคับคดีเป็นเงิน 56,825.75 บาท โจทก์ยื่นคำร้องขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดียกเว้นค่าธรรมเนียม แต่เจ้าพนักงานบังคับคดียืนยันให้โจทก์ชำระ
โจทก์ยื่นคำร้องว่า โจทก์ในฐานะเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาดำเนินการบังคับคดีโดยสุจริตและชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากเจ้าพนักงานที่ดินยังไม่ได้แก้ไขโฉนดฉบับเจ้าพนักงานที่ดิน โดยยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงแก้ไขชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์จากจำเลยเป็นผู้ที่ซื้อจากจำเลย การยึดทรัพย์ของโจทก์จึงเป็นการยึดทรัพย์ที่ชอบด้วยกฎหมาย เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีมีคำสั่งถอนการยึดทรัพย์โดยโจทก์มิได้ขอให้ถอนการยึดทรัพย์ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายเท่ากับจำนวนค่าธรรมเนียมถอนการยึดทรัพย์ นอกจากนี้การชำระค่าธรรมเนียมจะต้องกระทำก่อนถอนการยึดทรัพย์ ขอให้เพิกถอนคำสั่งของเจ้าพนักงานบังคับคดี หรือมีคำสั่งกำหนดวิธีการอย่างใดตามที่ศาลเห็นสมควรต่อไป
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ
โจทก์อุทธรณ์เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายโดยตรงต่อศาลฎีกาโดยได้รับอนุญาตจากศาลชั้นต้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 223 ทวิ
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงเบื้องต้นรับฟังเป็นยุติว่า โจทก์เป็นผู้ขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์ที่ดินโฉนดเลขที่ 197791 ตำบลคลองกุ่ม อำเภอบางกะปิ กรุงเทพมหานคร พร้อมสิ่งปลูกสร้างโดยอ้างว่าเป็นทรัพย์ของจำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษา เจ้าพนักงานบังคับคดีก็ยึดให้เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2547 แต่เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีมีหนังสือแจ้งการยึดทรัพย์และขอทราบราคาประเมินที่ดินไปยังเจ้าพนักงานที่ดิน ข้อเท็จจริงปรากฏว่าที่ดินนั้นจำเลยขายให้นางโสมพรรณ วัชรเสถียร ไปแล้วเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2531 แต่เจ้าพนักงานที่ดินยังมิได้จดแจ้งในสารบัญจดทะเบียน เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงมีคำสั่งถอนการยึดทรัพย์และแจ้งให้โจทก์เสียค่าธรรมเนียมยึดแล้วไม่มีการขาย คดีมีปัญหาข้อกฎหมายต้องวินิจฉัยว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีมีอำนาจถอนการยึดทรัพย์ของโจทก์หรือไม่ เห็นว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งหามีบทบัญญัติกฎหมายใดที่ให้อำนาจเจ้าพนักงานบังคับคดีมีคำสั่งเพิกถอนการยึดทรัพย์ด้วยตนเองไม่ คงมีแต่เรื่องถอนการบังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 295 กำหนดให้เจ้าพนักงานบังคับคดีถอนการบังคับคดีในกรณีต่อไปนี้ (1) เจ้าพนักงานบังคับคดีถอนการบังคับคดีนั้นเอง หรือถอนโดยคำสั่งศาล แล้วแต่กรณี เมื่อลูกหนี้ตามคำพิพากษาได้วางเงินต่อศาลหรือต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีเป็นจำนวนพอชำระหนี้ตามคำพิพากษา พร้อมทั้งค่าฤชาธรรมเนียมแห่งคดี หรือค่าธรรมเนียมในการบังคับคดี หรือหาประกันมาให้จนเป็นที่พอใจของศาลสำหรับจำนวนเงินเช่นว่านี้ ดังนี้เจ้าพนักงานบังคับคดีจะถอนการบังคับคดีได้ต่อเมื่อลูกหนี้ตามคำพิพากษาได้วางเงินต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีเป็นจำนวนพอชำระหนี้ตามคำพิพากษาหรือศาลมีคำสั่งให้เพิกถอนการบังคับคดี เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าทรัพย์ที่ยึดนั้นมิใช่ทรัพย์ของจำเลย เจ้าพนักงานบังคับคดีต้องแจ้งไปยังโจทก์ผู้ทำการยึดว่าโจทก์ประสงค์จะดำเนินการต่อไปอย่างไร ซึ่งการถอนการยึดทรัพย์สินเป็นสิทธิของโจทก์ที่จะยื่นคำขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการให้หรือเจ้าพนักงานบังคับคดีต้องแจ้งไปยังศาลเพื่อให้มีคำสั่งเพิกถอนการยึดทรัพย์ดังกล่าว การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีมีคำสั่งเพิกถอนการยึดเสียเองจึงเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติว่าด้วยการบังคับคดีจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย การที่ศาลชั้นต้นฟังว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีมีอำนาจถอนการยึดทรัพย์ได้โดยไม่ต้องรอให้โจทก์เป็นผู้ถอนและชำระค่าธรรมเนียมก่อนนั้นจึงไม่ชอบ ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้องของโจทก์ ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย”
พิพากษากลับ ให้ยกคำสั่งของศาลชั้นต้น และให้เพิกถอนคำสั่งของเจ้าพนักงานบังคับคดีที่ถอนการยึดที่ดินโฉนดเลขที่ 197791 ตำบลคลองกุ่ม อำเภอบางกระปิ กรุงเทพมหานคร พร้อมสิ่งปลูกสร้างค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองชั้นศาลให้เป็นพับ

Share