คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3709/2540

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์เป็นนายวงแชร์ที่จัดให้มีการเล่นแชร์โดยมีทุนกองกลางต่อหนึ่งงวดรวมกันมากกว่าสามแสนบาท ซึ่งมากกว่าจำนวนที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวงอันเป็นการฝ่าฝืน พระราชบัญญัติการแชร์พ.ศ. 2534 มาตรา 6(3) และตามพระราชบัญญัติดังกล่าวคงมีบทบัญญัติตามมาตรา 7 เท่านั้น ที่ให้สิทธิแก่ฝ่ายสมาชิกวงแชร์ฝ่ายเดียวที่จะฟ้องคดีหรือใช้สิทธิเรียกร้องเอากับนายวงแชร์หรือผู้จัดให้มีการเล่นแชร์ที่กระทำการฝ่าฝืนมาตรา 6 โดยมิได้มีบทบัญญัติให้สิทธิแก่ฝ่ายนายวงแชร์หรือผู้จัดให้มีการเล่นแชร์ที่จะมีการฟ้องคดีหรือใช้สิทธิเรียกร้องเอากับสมาชิกวงแชร์แต่อย่างใดย่อมแสดงให้เห็นเจตนารมณ์ของ พระราชบัญญัติการเล่นแชร์พ.ศ. 2534 ว่าไม่ประสงค์ที่จะให้นายวงแชร์หรือผู้จัดให้มีการเล่นแชร์ใช้สิทธิเรียกร้องในทางแพ่งเอากับสมาชิกวงแชร์ที่กระทำการฝ่าฝืนมาตรา 6 การที่โจทก์เป็นนายวงแชร์หรือผู้จัดให้มีการเล่นแชร์ฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติดังกล่าวจึงเป็นการกระทำที่มีวัตถุประสงค์เป็นการต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมายย่อมตกเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 150 ดังนั้นเช็คพิพาทที่จำเลยสั่งจ่ายให้แก่โจทก์เมื่อจำเลยประมูลแชร์ได้ก่อนที่แชร์วงนั้นจะเลิกจึงเป็นเช็คที่มีมูลหนี้มาจากการเล่นแชร์ที่ต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมายย่อมตกเป็นโมฆะโจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยรับผิดชำระเงินตามเช็คพิพาท

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้สั่งจ่ายเช็คธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัดจำนวน 2 ฉบับ ลงวันที่ 5 ตุลาคม 2536 รวมเป็นเงิน 495,420 บาทเพื่อชำระหนี้แก่โจทก์ เมื่อเช็คถึงกำหนดชำระ โจทก์ได้นำเช็คทั้งสองฉบับไปเรียกเก็บเงิน แต่ธนาคารตามเช็คได้ปฏิเสธการจ่ายเงินขอให้บังคับจำเลยชำระเงินจำนวน 532,370.07 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีของต้นเงิน 495,420 บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า เช็คพิพาททั้งสองฉบับจำเลยสั่งจ่ายให้แก่โจทก์เพื่อเป็นประกันการชำระหนี้ ซึ่งจำเลยเป็นสมาชิกวงแชร์และโจทก์เป็นนายวงแชร์ ต่อมาแชร์ดังกล่าวล้มเนื่องจากโจทก์ได้กระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติการเล่นแชร์ พ.ศ. 2534 มาตรา 6และมาตรา 17 จนถูกศาลพิพากษาลงโทษมูลหนี้ตามเช็คพิพาททั้งสองฉบับเกิดจากการเล่นแชร์ที่ฝ่าฝืนต่อกฎหมาย จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดใช้เงินตามเช็คพิพาททั้งสองฉบับแก่โจทก์ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน532,370.07 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีของต้นเงิน 495,420 บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติโดยคู่ความมิได้ฎีกาโต้แย้งว่า โจทก์เป็นนายวงแชร์ จำเลยเป็นสมาชิกวงแชร์จำเลยได้สั่งจ่ายเช็คพิพาทจำนวน 2 ฉบับ รวมเป็นเงินจำนวน495,420 บาท ให้แก่โจทก์เพื่อชำระหนี้ค่าแชร์ที่จำเลยประมูลได้เมื่อเช็คพิพาททั้ง 2 ฉบับ ถึงกำหนดชำระเงิน โจทก์นำไปเรียกเก็บเงินธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงิน แชร์วงดังกล่าวได้เลิกไปแล้วต่อมาพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุดได้ฟ้องโจทก์เป็นจำเลยต่อศาลอาญาในข้อหาความผิดต่อพระราชบัญญัติการเล่นแชร์ฯศาลอาญาพิพากษาว่าโจทก์มีความผิดตามพระราชบัญญัติการเล่นแชร์พ.ศ. 2534 มาตรา 6 และมาตรา 17 จำคุก 2 เดือน ปรับ 40,000 บาท
มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า จำเลยจะต้องรับผิดชำระเงินตามเช็คพิพาททั้งสองฉบับ ให้แก่โจทก์หรือไม่เห็นว่าตามพระราชบัญญัติการเล่นแชร์ พ.ศ. 2534 มาตรา 6ห้ามมิให้บุคคลธรรมดาเป็นนายวงแชร์หรือจัดให้มีการเล่นแชร์ที่มีลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้
(1) เป็นนายวงแชร์หรือจัดให้มีการเล่นแชร์มีจำนวนวงแชร์รวมกันมากกว่าสามวง
(2) มีจำนวนสมาชิกวงแชร์รวมกันทุกวงมากกว่าสามสิบคน
(3) มีทุนกองกลางต่อหนึ่งงวดรวมกันทุกวงเป็นมูลค่ามากกว่าที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง
คดีนี้โจทก์เป็นนายวงแชร์ที่จัดให้มีการเล่นแชร์โดยมีทุนกองกลางต่อหนึ่งงวดรวมกันมากกว่าสามแสนบาท ซึ่งมากกว่าจำนวนที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวงอันเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติการเล่นแชร์พ.ศ. 2534 มาตรา 6(3) และตามพระราชบัญญัติดังกล่าวคงมีบทบัญญัติตามมาตรา 7 เท่านั้น ที่ให้สิทธิแก่ฝ่ายสมาชิกวงแชร์ฝ่ายเดียวที่จะฟ้องคดีหรือใช้สิทธิเรียกร้องเอากับนายวงแชร์หรือผู้จัดให้มีการเล่นแชร์ที่กระทำการฝ่าฝืนมาตรา 6 โดยมิได้มีบทบัญญัติให้สิทธิแก่ฝ่ายนายวงแชร์หรือผู้จัดให้มีการเล่นแชร์ที่จะมีการฟ้องคดีหรือใช้สิทธิเรียกร้องเอากับสมาชิกวงแชร์แต่อย่างใด ดังนี้ ย่อมแสดงให้เห็นเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติการเล่นแชร์ พ.ศ.2534 ว่าไม่ประสงค์ที่จะให้นายวงแชร์หรือผู้จัดให้มีการเล่นแชร์ใช้สิทธิเรียกร้องในทางแพ่งเอากับสมาชิกวงแชร์ที่กระทำการฝ่าฝืนมาตรา 6 ดังนั้นการที่โจทก์เป็นนายวงแชร์หรือผู้จัดให้มีการเล่นแชร์ฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติดังกล่าวจึงเป็นการกระทำที่มีวัตถุประสงค์เป็นการต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมายย่อมตกเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 150 เช็คพิพาททั้งสองฉบับที่จำเลยสั่งจ่ายให้แก่โจทก์เมื่อจำเลยประมูลแชร์ได้ก่อนที่แชร์วงนั้นจะเลิก จึงเป็นเช็คที่มีมูลหนี้มาจากการเล่นแชร์ที่ต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมายย่อมตกเป็นโมฆะโจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยรับผิดชำระเงินตามเช็คพิพาททั้งสองฉบับ
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์

Share