แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
ลิขสิทธิ์ที่บุคคลสามารถเป็นเจ้าของได้ จะต้องเป็นลิขสิทธิ์ในงานที่ตน สร้างสรรค์ โดยชอบด้วยกฎหมาย แต่เมื่อปรากฏว่าวีดีโอเทปของกลาง 1 ที่โจทก์อ้างว่าเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ มีบทแสดงการร่วมเพศระหว่างหญิงและชาย บาง ตอนอันเป็นภาพลามก ซึ่งผู้ใดทำหรือมีไว้หรือมีส่วนเกี่ยวข้องในการค้า เป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 287 งานของโจทก์ดังกล่าวจึงมิใช่งานสร้างสรรค์ ตามความหมายแห่ง พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2521 โจทก์จึงไม่ใช่เจ้าของลิขสิทธิ์ ไม่ใช่ผู้เสียหายตาม ป.วิ.อ. มาตรา 2(4) และไม่มีอำนาจฟ้อง วีดีโอเทปของกลาง 2 ที่จำเลยอ้างส่งต่อศาลในระหว่างการพิจารณาไม่ใช่ของกลางที่พนักงานสอบสวนได้ยึดไว้ในคดี และโจทก์มิได้มีคำขอให้ริบ แม้วีดีโอเทปดังกล่าวจะมีภาพลามกรวมอยู่ด้วยอย่างเดียวกันกับวีดีโอเทปของกลาง 1 ศาลก็ไม่มีอำนาจสั่งริบตาม ป.วิ.อ.มาตรา 192 ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้จะไม่มีฝ่ายใดฎีกา ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้สร้างและมีกรรมสิทธิ์ในภาพยนตร์ไทยเรื่อง “อาถรรพ์น้ำมันพราย” และโจทก์มีลิขสิทธิ์ในภาพยนตร์ดังกล่าวจำเลยได้กระทำซ้ำดัดแปลง ลอกเลียนแบบภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวถ่ายเทปวีดีโอลงในม้วนวีดีโอของจำเลยแล้วให้นายวิชัยเช่าไปในราคา 20 บาท เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์ ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2521 มาตรา 24, 25, 26, 27, 43 และ44 และริบม้วนแทปวีดีโอที่พนักงานสอบสวนยึดไว้ในคดีนี้
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูล ให้ประทับฟ้อง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ ม้วนวีดีโอเทปของกลาง 1 และของกลาง 2 เป็นของที่ผู้ใดมีไว้เป็นความผิด จึงให้ริบ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2521 มาตรา 25, 43 วรรคสอง ลงโทษจำคุกและปรับแต่รอการลงโทษจำคุกไว้ม้วนวีดีโอเทปของกลางทั้งสองม้วนมีภาพลามกอยู่บางส่วน จึงเป็นของที่มีไว้ผิดกฎหมายให้ริบ
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “…พิเคราะห์แล้วข้อเท็จจริงคงฟังได้ในเบื้องต้นว่า นายวิชัยได้เช่าม้วนวีดีโอเทปภาพยนตร์ เรื่องอาถรรพ์น้ำมันพรายตามวีดีโอเทปของกลาง 1 จากร้านของจำเลย โดยนางสาวสมพรหรือจู ชัยชนะ ลูกจ้างของร้านจำเลยเป็นผู้มอบเทปดังกล่าวให้นายวิชัยไป มีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยข้อแรกว่า วีดีโอเทปของกลาง 1 เป็นของผิดกฎหมาย โจทก์ไม่อาจกล่าวอ้างเป็นเจ้าลิขสิทธิ์ได้หรือไม่ ได้ความว่าม้วนวีดีโอเทปของกลาง 1 ซึ่งยึดจากร้านจำเลยให้เช่าก็ดี ม้วนวีดีโอเทปของกลาง 2ซึ่งจำเลยอ้างส่งเพื่อพิสูจน์เปรียบเทียบก็ดี มีเนื้อเรื่องและภาพเหมือนกันทั้ง 2 ม้วน โดยเป็นเทปภาพยนตร์ไทยเรื่องอาถรรพ์น้ำมันพรายที่โจทก์เป็นผู้จัดสร้างแต่วีดีโอเทปทั้งสองม้วนดังกล่าวมีบทแสดงการร่วมเพศระหว่างหญิงและชายอยู่ด้วยในบางตอนซึ่งเป็นภาพลามก ผู้ใดทำหรือมีไว้หรือมีส่วนเกี่ยวข้องในการค้า เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287 โจทก์จึงไม่อาจเป็นผู้มีลิขสิทธิ์ในภาพยนตร์ดังกล่าวได้ เพราะลิขสิทธิ์ที่สามารถเป็นเจ้าของได้ จะต้องเป็นลิขสิทธิ์ในงานที่ตนสร้างสรรค์โดยชอบด้วยกฎมหาย งานของโจทก์ดังกล่าวจึงมิใช่งานสร้างสรรค์ตามความหมายแห่งพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2521 และเมื่องานของโจทก์ผิดต่อกฎหมายอาญาเช่นนี้ โจทก์จึงไม่ใช่เจ้าของลิขสิทธิ์ และไม่ใช่ผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4) โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง ไม่จำต้องวินิจฉัยฎีกาข้ออื่นของจำเลยอีกต่อไปแต่การที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาให้ริบม้วนวีดีโอเทปของกลาง 2ซึ่งจำเลยส่งศาลนั้นเป็นการไม่ชอบ เพราะมิใช่ของกลางที่พนักงานสอบสวนได้ยึดไว้ในคดีนี้ และโจทก์มิได้มีคำขอให้ริบ แม้วีดีโอเทปดังกล่าวจะมีภาพลามกรวมอยู่ด้วยศาลก็ไม่มีอำนาจสั่งริบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้จะไม่มีฝ่ายใดฎีกา ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้
พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์ ริบม้วนวีดีโอเทปของกลาง 1 ส่วนม้วนวีดีโอเทปของกลาง 2 ไม่ริบ”.