แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
พระราชกฤษฎีกาที่รัฐบาลอาศัยอำนาจออกใช้โดยอาศัยพระราชบัญญัติมอบอำนาจให้รัฐบาลในภาวะคับขันนั้น จะใช้บังคับเป็นกฎหมายได้แต่เฉพาะระหว่างเวลาที่มอบอำนาจให้ในภาวะคับขันเท่านั้น
เมื่อมีพระราชบัญญัติยกเลิกพระราชบัญญัติมอบอำนาจให้รัฐบาลในภาวะคับขันนั้นแล้ว พระราชกฤษฎีกาที่อาศัยอำนาจก็สิ้นผลบังคับตามกฎหมาย
การกระทำซึ่งเป็นผิดตามกฎหมายที่ใช้อยู่ในขณะกระทำผิดแต่ไม่มีผิดตามกฎหมายที่จะลงโทษขณะที่ศาลพิจารณา ต้องใช้กฎหมายที่เป็นคุณแก่จำเลยตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 8
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2487 จำเลยนำซิกาแรต 130 กระป๋องเท่ากับ 6,500 มวนข้ามเขตจังหวัดตรังไปยังจังหวัดพังงาโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นการฝ่าฝืนต่อประกาศกระทรวงพาณิชย์ซึ่งประกาศใช้เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2486 และพระราชกฤษฎีกาควบคุมการนำซิกาแรตออกนอกเขตท้องที่บางแห่ง 2486 มาตรา 3 และ 4
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามกฎหมายที่โจทก์อ้างลงโทษปรับ 20 บาทของกลางริบ
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยเป็นเพียงผู้ซื้อแล้วให้ผู้อื่นนำไปตัวจำเลยมิได้นำไปเอง ข้อหาก็มิใช่ความจริงพิพากษายกฟ้อง
ศาลฎีกาพิจารณาแล้วเห็นว่าบัดนี้ได้มีพระราชบัญญัติยกเลิกกฎหมายบางฉบับซึ่งใช้ในภาวะคับขัน พ.ศ. 2489 ให้ยกเลิกพระราชบัญญัติมอบอำนาจให้รัฐบาลในภาวะคับขันนั้นเสียแล้วแต่วันที่ 9 พฤษภาคม 2489 ฉะนั้น พระราชกฤษฎีกาควบคุมการนำซิกาแรตออกนอกเขตท้องที่บางแห่ง พ.ศ. 2486 จึงเป็นอันสิ้นผลบังคับตามกฎหมาย การกระทำอันฝ่าฝืน พระราชกฤษฎีกาที่กล่าวนี้ จึงไม่เป็นผิดตามกฎหมายบ้านเมืองต่อไป กรณีเรื่องนี้แม้การกระทำของจำเลยจะเป็นผิดก็เป็นผิดตามกฎหมายของบ้านเมืองที่ใช้อยู่ในขณะกระทำผิดแต่ไม่มีผิดตามกฎหมายของบ้านเมืองในขณะศาลทำการพิจารณาศาลจะต้องใช้กฎหมายที่เป็นคุณแก่จำเลยตามนัย มาตรา 8 กฎหมายลักษณะอาญา จึงพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์