คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3696/2525

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

นายจ้างมีอำนาจที่จะออกระเบียบกำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับการปฏิบัติงานในหน้าที่พนักงานขายของลูกจ้างเพื่อให้ผลงานของนายจ้างเจริญก้าวหน้าได้ ระเบียบเช่นนี้ไม่เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมหรือขัดแย้งกับข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างซึ่งเป็นข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของลูกจ้างโดยทั่วไป จึงเป็นระเบียบที่ชอบด้วยกฎหมาย เมื่อลูกจ้างจงใจฝ่าฝืนและนายจ้างได้ตักเตือนเป็นหนังสือแล้วนายจ้างมีสิทธิเลิกจ้างได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย ไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า และถือไม่ได้ว่าเป็นการเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรม

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นลูกจ้างประจำของจำเลย จำเลยเลิกจ้างโจทก์ โดยโจทก์มิได้กระทำความผิด เป็นการเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรมทำให้โจทก์เสียหายไม่บอกกล่าวล่วงหน้าและไม่จ่ายค่าชดเชย และยังค้างค่าจ้าง ค่าพาหนะ ค่าคอมมิชชั่น เงินโบนัสและเงินสะสม ขอให้บังคับจำเลยจ่ายเงินดังกล่าว

จำเลยให้การว่า จำเลยเลิกจ้างโจทก์เพราะโจทก์ฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน ขัดคำสั่งอันชอบด้วยกฎหมายของจำเลย จำเลยว่ากล่าวตักเตือนด้วยวาจาและหนังสือหลายครั้ง โจทก์ไม่ยอมทำตามคำสั่ง จำเลยจึงมีสิทธิเลิกจ้างโจทก์ได้โดยไม่ต้องจ่ายเงินต่าง ๆ ตามฟ้อง ขอให้พิพากษายกฟ้อง

ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า โจทก์ฝ่าฝืนระเบียบเกี่ยวกับการทำงานซึ่งโจทก์เคยถูกตักเตือนเป็นหนังสือแล้วจงใจขัดคำสั่งของนายจ้างอันชอบด้วยกฎหมายจำเลยมีสิทธิเลิกจ้างโจทก์ได้โดยไม่ต้องจ่ายเงินตามฟ้อง เว้นแต่เงินโบนัส เงินสะสมส่วนที่เป็นของโจทก์ และค่านายหน้า พิพากษาให้จำเลยจ่ายค่านายหน้า เงินโบนัส เงินสะสมแก่โจทก์ คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยกเสีย

โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า การที่จำเลยออกระเบียบกำหนดหน้าที่และความรับผิดชอบต่องานสำหรับพนักงานขาย โดยเฉพาะที่กำหนดให้พนักงานขายต้องทำรายงานข้อเท็จจริงเสนอต่อผู้บังคับบัญชาเกี่ยวกับการเดินทางก่อนออกตลาดรายงานการเยี่ยมลูกค้าประจำเขต ทำประวัติข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้านั้น เป็นอำนาจของจำเลยซึ่งเป็นนายจ้างที่จะออกระเบียบเกี่ยวกับการปฏิบัติงานในหน้าที่ของลูกจ้างเช่นนั้นได้เพื่อให้ได้ผลงานที่มีประสิทธิภาพเป็นประโยชน์ในด้านยังความเจริญก้าวหน้าในกิจการของจำเลยและระเบียบดังกล่าวเป็นเพียงการกำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของพนักงานขาย มิใช่เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมหรือขัดแย้งกับข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างซึ่งเป็นข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของพนักงานโดยทั่วไปเมื่อโจทก์จงใจฝ่าฝืนไม่ยอมปฏิบัติตามทั้งจำเลยได้เตือนเป็นหนังสือแล้ว จำเลยจึงมีสิทธิเลิกจ้างโจทก์โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงานฯ ข้อ 47(3) และไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 583 ทั้งถือไม่ได้ว่าเป็นการเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรม เพราะเป็นกรณีที่จำเลยให้โจทก์ออกจากงานโดยมีความผิด โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหายรวมทั้งเงินสมทบส่วนที่จำเลยจ่ายสมทบจากจำเลย

พิพากษายืน

Share