คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 369/2509

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยชอบดุด่า ชอบเสพสุรา เคยฟันโจทก์ 2 ครั้งที่แขนซ้ายและมือซ้ายเคยเอากาแฟร้อนสาดหน้าและต่อยโจทก์และโจทก์ก็เคยฟันจำเลยถึงกระดูกนิ้วขาดแม้จะนับได้ว่าเป็นเรื่องรุนแรงอยู่มาก แต่ก็เกิดขึ้นเป็นครั้งคราวจากการที่ได้เป็นสามีภริยากันมารวม 2 ระยะ เป็นเวลาประมาณ 7-8 ปีแล้ว ถือว่าไม่มีลักษณะจะเป็นเหตุที่โจทก์จะขอให้ตนแยกอยู่ต่างหากจากจำเลยดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1455
หมายเหตุ เหตุตามที่ฟ้องนี้อาจฟ้องขอหย่าได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1500(2) แต่ขาดอายุความแล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์กับจำเลยเป็นสามีภรรยากันโดยชอบด้วยกฎหมายระหว่างอยู่กินเป็นสามีภรรยากัน จำเลยได้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงโดยเสพสุราเมาเป็นอาจิณและทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภรรยากันอย่างร้ายแรง ด่าว่าโจทก์อย่างหยาบช้าสามานย์ และใช้กำลังทำร้ายร่างกายอย่างทารุณ ถ้าอยู่ร่วมกันต่อไปจะเป็นอันตรายแก่อนามัยและทำลายความผาสุกอย่างมากของโจทก์ โจทก์ต้องออกจากบ้านไปอาศัยอยู่กับญาติและไม่สามารถเลี้ยงตนเองได้ ขอให้ศาลสั่งให้โจทก์แยกกันอยู่กินกับจำเลยและใช้จ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดู

จำเลยให้การว่า จำเลยได้อุปการะเลี้ยงโจทก์อย่างดีที่สุดแต่โจทก์ประพฤติตัวชั่วช้าสามานย์ ลักลอบเล่นการพนันผลาญทรัพย์เป็นอาจิณ ถูกตำรวจจับเรื่องเล่นการพนันส่งฟ้องศาลได้รับโทษถึง 2 ครั้ง เอาค่าใช้จ่ายประจำเดือน หลอกเก็บดอกเบี้ยจากลูกหนี้และค่าเช่าจากผู้เช่าเอาไปเล่นการพนัน เป็นเจ้ามือเถื่อนสลากกินรวบและลักเอาเครื่องทองรูปพรรณสินเดิมของจำเลยไปจำนำ โจทก์ทิ้งร้างจำเลยไปด้วยความสมัครใจของโจทก์เอง จำเลยไม่มีหน้าที่จะต้องอุปการะเลี้ยงดูโจทก์ตามกฎหมาย

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาให้โจทก์อยู่ต่างหากกับจำเลยให้จำเลยจ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูโจทก์

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า เหตุต่าง ๆ ดังที่โจทก์ยกขึ้นอ้างและเบิกความถึงจะเกิดขึ้นเสมอ ๆ จนแทบจะกล่าวได้ว่าเป็นปกติหรือไม่ ไม่ปรากฏถ้าหากเป็นแต่เพียงเกิดขึ้นบ้างเป็นครั้งคราว จากการที่ได้เป็นสามีภริยากันมารวม 2 ระยะเป็นเวลาประมาณ 7-8 ปีแล้ว ก็น่าจะไม่ใช่เป็นเรื่องถึงกับจะเป็นเหตุให้แยกกันอยู่ได้แม้จะปรากฏว่าจำเลยได้ฟันโจทก์ 2 ครั้งที่แขนซ้ายและมือซ้าย กับเอากาแฟร้อนสาดหน้าและต่อยโจทก์ก็ดี แต่ก็ปรากฏว่าโจทก์ก็ฟันจำเลยถึงกระดูกนิ้วขาด และเหตุดังกล่าวนี้แม้จะนับได้ว่าเป็นเรื่องรุนแรงอยู่มากก็ดีก็ไม่มีลักษณะจะเป็นเหตุที่โจทก์จะขอให้ตนแยกอยู่ต่างหากจากจำเลยดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1455 นั้นได้

พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ยกฟ้องโจทก์

Share