คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3683/2530

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

จำเลยได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรได้เป็นการชั่วคราวโดยมีชื่อ อยู่ในทะเบียนญวนอพยพ ต่อมาจำเลยหลบหนีออกนอกราชอาณาจักรตาม พ.ร.บ. คนเข้าเมืองฯ มาตรา 39 ให้ถือว่าการได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเป็นอันสิ้นสุด เมื่อจำเลยกลับเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรอีก ก็ต้องเป็นความผิดตามมาตรา 81 ดังนี้ การที่ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคายมีคำสั่งอนุมัติให้ถอน ชื่อ จำเลยจากทะเบียนญวนอพยพ จะเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่จึงไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพราะการถอน ชื่อ จำเลยออกจากทะเบียนญวนอพยพกับการอนุญาตถูกเพิกถอนเป็นคนละกรณีกัน ฎีกาข้อกฎหมายของจำเลยจึงไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย ต้องห้ามตาม ป.วิ.พ.มาตรา 249 ประกอบ ป.วิ.อ. มาตรา 15,215,225.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นคนญวน ได้อยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต เพราะจำเลยถูกถอนชื่อออกจากทะเบียนญวนอพยพ ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 81
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามฟ้อง จำคุก 2 เดือนปรับ 2,000 บาท รอการลงโทษไว้
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาข้อกฎหมายว่า ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522มิได้มีบทบัญญัติใดให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดถอนชื่อคนญวนอพยพออกจากทะเบียนญวนอพยพโดยมิได้รับอนุญาตจากอธิบดีหรือคณะกรรมการตามความในพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 36 วรรคหนึ่งและไม่ปรากฏว่าผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคายได้รับมอบอำนาจให้มีอำนาจเพิกถอนชื่อจำเลยออกจากทะเบียนญวนอพยพแต่อย่างใด คำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคายจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า จำเลยซึ่งเป็นคนญวนอพยพได้หลยหนีไปอยู่ประเทศสาธารณรัฐประชาชนลาวเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2525 นายกุศล ศานติธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ได้อนุมัติให้ถอนชื่อจำเลยออกจากทะเบียนคนญวนอพยพสำนักงานกิจการญวน จังหวัดหนองคาย เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2525ตามบันทึกข้อความเรื่องขออนุมัติถอนชื่อคนญวนอพยพออกจากทะเบียนญวนอพยพ แล้ววินิจฉัยว่า “เห็นว่า ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมืองพ.ศ. 2522 มาตรา 81 บัญญัติว่า คนต่างด้าวผู้ใดอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือการอนุญาตสิ้นสุด หรือถูกเพิกถอน ต้องระวางโทษ ฯลฯ เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรได้เป็นการชั่วคราวโดยมีชื่ออยู่ในทะเบียนญวนอพยพและมีบัตรประจำตัวเลขที่ นค.1-2590 ต่อมาจำเลยหลบหนีออกนอกราชอาณาจักร ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง มาตรา 39 ให้ถือว่าการได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเป็นอันสิ้นสุดเมื่อจำเลยกลับเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรอีก ก็ต้องเป็นความผิดตามมาตรา 81 ที่เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตจำเลยจึงมีความผิดตามฟ้อง การที่ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคายมีคำสั่งอนุมัติให้ถอนชื่อจำเลยจากทะเบียนญวนอพยพ คำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคายจะชอบด้วยกฎหมายหรือไม่จึงไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพราะการถอนชื่อจำเลยออกจากทะเบียนญวนอพยพกับการอนุญาตถูกเพิกถอนเป็นคนละกรณีกัน ฎีกาข้อกฎหมายของจำเลยจึงไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 มาตรา 215 และมาตรา225 ศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัยให้”
พิพากษาให้ยกฎีกาของจำเลย.

Share