แหล่งที่มา : ADMIN
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เป็นลูกจ้างของจำเลยเมื่อพ.ศ.2523โจทก์ผ่านการทดสอบเพื่อเลื่อนตำแหน่งและรอการแต่งตั้งอยู่ระหว่างนั้นจำเลยมีคำสั่งที่30/2529กำหนดหลักเกณฑ์การพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายขึ้นใหม่โดยจะตัดสิทธิไม่เลื่อนตำแหน่งพนักงานที่สอบได้หากไม่ได้รับการแต่งตั้งภายในพ.ศ.2530และต่อมาจำเลยมีหนังสือที่สอ.912/2529แจ้งว่าโจทก์ถูกคัดชื่อออกจากรายชื่อพนักงานที่ผ่านการทดสอบฯเพราะในระยะเวลาสามปีที่ผ่านไปโจทก์ไม่อุทิศตนและเวลาในการปฏิบัติงานให้แก่จำเลยเท่าที่ควรและมีวันลามากซึ่งไม่เป็นความจริงขอให้เพิกถอนคำสั่งและหนังสือดังกล่าวดังนี้หนังสือที่สอ.912/2529เป็นกรณีพิพาทเกี่ยวด้วยสิทธิตามสัญญาจ้างแรงงานเป็นเรื่องที่โจทก์ถูกโต้แย้งสิทธิโดยตรงหากข้ออ้างของจำเลยตามหนังสือดังกล่าวไม่เป็นความจริงโจทก์ชอบที่จะได้รับการพิจารณาเลื่อนตำแหน่งตามผลการทดสอบได้ภายในพ.ศ.2530ชอบที่ศาลแรงงานกลางจะรับฟ้องส่วนนี้ไว้พิจารณาส่วนคำสั่งที่30/2529นั้นจะเป็นข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างหรือมิใช่ก็ตามก็ไม่กระทบกระเทือนหรือโต้แย้งสิทธิของโจทก์แต่ประการใดเพราะคำสั่งดังกล่าวยังให้โอกาสแก่โจทก์ที่จะได้รับการพิจารณาเลื่อนตำแหน่งได้จนถึงพ.ศ.2530หากข้ออ้างของจำเลยในการตัดชื่อโจทก์ออกจากบัญชีรายชื่อผู้ผ่านการทดสอบฯตามหนังสือที่สอ.912/2529ไม่เป็นความจริงโจทก์ก็ยังได้รับประโยชน์จากคำสั่งที่30/2530อยู่ศาลแรงงานกลางไม่รับฟ้องส่วนนี้ของโจทก์ไว้พิจารณาจึงชอบแล้ว.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 เป็นนิติบุคคล จำเลยที่ 2 เป็นผู้อำนวยการของจำเลยที่ 1 โจทก์เป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 1 ที่ธนาคารออมสิน สาขาบางรัก เมื่อพ.ศ. 2523 โจทก์ได้เข้าทดสอบเพื่อเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดการธนาคารออมสินสาขาชั้น 3 หรือเทียบเท่า ปรากฏว่าโจทก์สอบได้ และรอการแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งตามประเพณีที่เคยกระทำมา ต่อมาจำเลยที่ 1 มีคำสั่งที่ 14/2527 เรื่องการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายพนักงานในฝ่ายการออมสิน ซึ่งถือเป็นข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 มาตรา 10 ซึ่งจำเลยได้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ดังกล่าว ครั้นวันที่ 29 มีนาคม 2529 จำเลยที่ 2 ได้มีคำสั่งที่ 30/2529 เรื่อง หลักเกณฑ์การพิจารณาพนักงานที่ผ่านการทดสอบในฝ่ายการออมสินและการพิจารณาแต่งตั้งหรือโยกย้าย โดยคำสั่งที่ 14/2527 และกำหนดเงื่อนไขที่เป็นโทษแก่พนักงานฝ่ายการออมสินที่สามารถสอบผ่านการทดสอบเป็นจำนวนมากเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 มาตรา 20 จำเลยได้ประกาศรายชื่อพนักงานฝ่ายการออมสินที่ผ่านการทดสอบและมีความเหมาะสมที่จะได้รับการพิจารณาเลื่อนวิทยฐานะซึ่งไม่มีชื่อโจทก์ โจทก์ได้รับหนังสือที่ สอ.912/2529 ลงวันที่ 31 พฤษภาคม 2529 แจ้งว่าโจทก์ถูกคัดชื่อออกเพราะเมื่อสามปีที่แล้วมาโจทก์ไม่อุทิศตนและเวลาในการปฏิบัติงานให้แก่จำเลยที่ 1และมีวันลามาก ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะโจทก์ปฏิบัติงานด้วยดีตลอดมา เป็นการไม่ชอบด้วยคำสั่งที่ 14/2527 ทำให้โจทก์เสียหาย ขอให้บังคับจำเลยเพิกถอนคำสั่งที่ 30/2529 ลงวันที่ 29 มีนาคม 2529 และหนังสือที่ สอ.912/2529 ลงวันที่31 พฤษภาคม 2529 กับขอให้จำเลยใช้คำสั่งที่ 14/2527 ลงวันที่ 14 กุมภาพันธ์2527 เป็นหลักเกณฑ์ในการพิจารณาเลื่อนตำแหน่งโจทก์ ศาลแรงงานกลางตรวจคำฟ้องแล้วมีคำสั่งว่า คำขอของโจทก์ที่ขอให้ศาลสั่งให้จำเลยเพิกถอนคำสั่งตามข้อ 1 และข้อ 2 และขอให้ใช้คำสั่งข้อ 3 นั้นเป็นคำสั่งของจำเลยที่จะทำได้โดยชอบ ไม่ใช่สภาพการจ้าง จึงไม่เป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ จึงไม่รับฟ้องโจทก์ โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า เห็นว่า หนังสือที่ สอ.912/2529 ลงวันที่ 31 พฤษถาคม 2529 ที่ตัดชื่อโจทก์ออกจากบัญชีรายชื่อผู้ผ่านการทดสอบฯ โดยอ้างว่าโจกท์ไม่อุทิศตนและเวลาในการปฏิบัติงานให้จำเลยนั้นเป็นกรณีพิพาทเกี่ยวด้วยสิทธิตามสัญญาจ้างแรงงาน เป็นเรื่องโจทก์ถูกโต้แย้งสิทธิโดยตรง หากข้ออ้างของจำเลยตามหนังสือดังกล่าวไม่เป็นความจริง โจทก์ชอบที่จะได้รับการพิจารณาเลื่อนตำแหน่งตามผลงานของการทดสอบได้ภายใน พ.ศ. 2530ตามคำสั่งที่ 30/2529 จึงชอบที่ศาลจะรับฟ้องส่วนนี้ไว้พิจารณา ส่วนคำสั่งที่ 30/2529 จะเป็นข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างหรือมิใช่ก็ตามหากเป็นการกระทบกระเทือนหรือโต้แย้งสิทธิโจทก์ประการใดไม่ เพราะคำสั่งดังกล่าวยังให้โอกาสแก่โจทก์ที่จะได้รับการพิจารณาเลื่อนตำแหน่งได้จนถึง พ.ศ. 2530 หากข้ออ้างของจำเลยในการตัดชื่อโจทก์ออกจากบัญชีรายชื่อผู้ผ่านการทดสอบตามหนังสือที่ สอ.912/2529 ไม่เป็นความจริง โจทก์ยังได้รับประโยชน์จากคำสั่งที่ 30/2529 อยู่นั่นเอง พิพากษาแก้เป็นว่า ให้รับฟ้องโจทก์ในส่วนที่ขอให้เพิกถอนหนังสือที่ สอ.912/2529 ลงวันที่ 31 พฤษภาคม 2529 ไว้พิจารณา นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำสั่งของศาลแรงงานกลาง