แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชนในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 ไม่ถือเอาจำนวนผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงมากหรือน้อยเป็นหลัก แต่ถือเจตนาแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชนเป็นสำคัญ เมื่อจำเลยได้หลอกลวงผู้เสียหายและบุคคลอื่นๆในท้องที่หลายจังหวัดให้มาสมัครไปทำงานต่างประเทศกับจำเลยโดยรับรองว่ามีงานให้ทำและจะได้ไปทำงานเร็ว เป็นเหตุให้ผู้เสียหายหลงเชื่อมาสมัครงานและชำระเงินให้ แต่จำเลยไม่สามารถจัดส่งไปทำงานและไม่ยอมคืนเงินแก่ผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยเป็นการฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานร่วมกับพวกหลอกลวงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๔๑, ๓๔๓, ๘๓ และให้ร่วมกันใช้เงินคืนแก่ผู้เสียหาย
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๔๓, ๘๓และให้ใช้เงินคืนแก่ผู้เสียหาย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชนในความผิดฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๔๓ ไม่ถือเอาจำนวนผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงมากหรือน้อยเป็นหลัก แต่ถือเจตนาแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชนเป็นสำคัญ เมื่อปรากฏว่าจำเลยได้หลอกลวงและชักชวนผู้เสียหายกับบุคคลอื่น ๆในท้องที่ ๓ จังหวัด ให้มาสมัครไปทำงานต่างประเทศกับจำเลยโดยรับรองว่ามีงานให้ทำและจะได้ไปทำงานเร็ว เป็นเหตุให้พวกผู้เสียหายหลงเชื่อมาสมัครงานและชำระเงินให้แก่จำเลยแต่จำเลยไม่สามารถจัดส่งไปทำงานและไม่ยอมคืนเงินให้พวกผู้เสียหาย การกระทำดังกล่าวของจำเลยกับพวกเป็นการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชนโดยทั่วไปแล้วมิใช่จำกัดไว้เฉพาะผู้เสียหายเท่านั้น เพราะจำเลยกับพวกมีเจตนาให้ประชาชนผู้สนใจมาสมัครไปทำงานในต่างประเทศได้ทุกคน
พิพากษายืน