คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3651/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ตายกับพวกร่วมกันดื่มสุราโดยมีจำเลยนั่งอยู่ด้วย ผู้ตายจับไหล่ นมและแขนจำเลย จำเลยโกรธเดินออกจากบ้านผู้ตาย ผู้ตายยังเดินตามเข้ามากอดจำเลยทางด้านหลัง ฉุดและกอดปล้ำจนจำเลยล้มลง ผู้ตายขึ้นนั่งทับหน้าท้องจำเลยพร้อมกับปลดกระดุมเสื้อของตนและของจำเลย จำเลยจึงใช้มีดที่ติดตัวมาแทงผู้ตายถึงแก่ความตาย แม้มีบาดแผลถึง 30 แผล แต่เป็นการแทงติดต่อกันไปซึ่งจำเลยไม่อาจทราบได้ว่าภยันตรายดังกล่าวหมดไปแล้วหรือไม่ ดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันแต่กระทำไปเกินสมควรแก่เหตุ เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ประกอบด้วยมาตรา 69

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ใช้มีดแทงนายชลอ พยัฆเนตร โดยเจตนาฆ่าขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ และริบมีดของกลาง
จำเลยให้การว่า ได้แทงนายชลอผู้ตายเพราะผู้ตายใช้กำลังปลุกปล้ำเพื่อจะข่มขืนกระทำชำเราจำเลย เป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย
นายโพธิ์ พยัฆเนตร บิดาผู้ตายขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ ประกอบด้วยมาตรา ๖๙ จำคุก ๔ ปี ริบมีดของกลาง
โจทก์ร่วมและจำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ ประกอบด้วยมาตรา ๖๙ จำคุกจำเลย ๑ ปี และให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด ๒ ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ร่วมฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า วันเกิดเหตุเวลาประมาณ ๒๐ นาฬิกา นายชลอร่วมดื่มสุรากับพวก ๔ คน รวมทั้งจำเลยด้วยที่บ้านพักของนายชลอ นายชลอมีอาการเมาสุราได้จับไหล่ นม และแขนจำเลย จำเลยห้าม แต่นายชลอไม่เชื่อฟัง จำเลยเดินออกจากบ้านไปแจ้งความต่อตำรวจ นายชลอเดินตามเข้ามากอดจำเลยทางด้านหลัง ฉุด กอด ปล้ำจนจำเลยล้มลง นายชลอขึ้นนั่งทับหน้าท้องจำเลยพร้อมกับปลดกระดุมเสื้อของนายชลอและของจำเลย จำเลยจึงใช้มีดที่ติดตัวมาด้วยแทงนายชลอจนล้มลงและถึงแก่ความตาย แล้ววินิจฉัยว่า จากข้อเท็จจริงดังกล่าวประกอบกับจำเลยเป็นหญิงมีอายุเพียง ๒๒ ปี ย่อมมีสิทธิป้องกันตนเองให้พ้นจากภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย และเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึงได้ การที่จำเลยใช้อาวุธมีดที่ติดตัวแทงนายชลอถึงแก่ความตาย จึงเป็นการป้องกันแต่กระทำไปเกินสมควรแก่เหตุเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ ประกอบด้วยมาตรา ๖๙
พิพากษายืน

Share