แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยลักปลาตะเพียนและปลากระดี่จำนวน2 กิโลกรัม ราคา 30 บาท และบรรยายต่อไปว่า จำเลยใช้แหทอดเอาปลาไปจากบ่อเลี้ยงปลาของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ฟ้องของโจทก์จึงระบุข้อเท็จจริงรายละเอียดเกี่ยวกับตัวทรัพย์และสถานที่รวมทั้งสิ่งที่เกี่ยวข้องพอสมควรที่จำเลยจะต่อสู้คดีได้ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม
ในความผิดฐานลักทรัพย์ เมื่อจำเลยมีความผิดตามมาตรา 335 แล้ว ก็ไม่จำต้องยกมาตรา 334 ขึ้นปรับบทลงโทษอีก
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันเข้าไปในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาลัยเขตกำแพงแสน อันเป็นสถานที่ราชการโดยไม่ได้รับอนุญาต ลักเอาปลาตะเพียนและปลากระดี่จำนวน ๒ กิโลกรัม ราคา ๓๐ บาท ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ซึ่งอยู่ในความครอบครองดูแลรักษาของนายวังสรรค์ สุฉันทบุตร โดยใช้แหทอดเอาปลาของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์วิทยาเขตกำแพงแสนไปโดยทุจริต ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๓๔, ๓๓๕ ริบแหของกลาง
จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๓๔, ๓๓๕, ๘๓ ให้จำคุกและริบแหของกลาง
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ขอให้รอการลงโทษ
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกาว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๕๘
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า แม้ฟ้องโจทก์ไม่ได้บรรยายว่าจำเลยลักปลาตะเพียนและปลากระดี่แต่ละชนิดเป็นจำนวนเท่าไร มีราคาเท่าไร จำเลยลักปลาชนิดใดไปมากกว่ากัน จำเลยลักไปจากบ่อปลาแห่งใด ทางทิศใดและเป็นบ่อเดียวของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์หรือไม่ แต่ฟ้องโจทก์ก็ได้บรรยายไว้ชัดแจ้งว่า จำเลยลักปลาตะเพียนและปลากระดี่จำนวน ๒ กิโลกรัม ราคา ๓๐ บาท โจทก์บรรยายฟ้องต่อไปว่า จำเลยใช้แหทอดปลาไปจากบ่อเลี้ยงปลาของมหาวิทยาลัเกษตรศาสตร์ฟ้องโจทก์จึงระบุข้อเท็จจริง รายละเอียดเกี่ยวกับตัวทรัพย์และสถานที่รวมทั้งสิ่งที่เกี่ยวข้องพอสมควรที่จำเลยจะต่อสู้คดีได้ ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม แต่ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๔ และ ๓๓๕นั้น ศาลฎีกาเห็นว่าเมื่อจำเลยมีความผิดตาม มาตรา ๓๓๕ แล้วก็ไม่จำต้องยกมาตรา ๓๓๔ ขึ้นปรับบทลงโทษอีก
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๓๕(๑)(๗) ประกอบด้วยมาตรา ๘๓ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์