คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3634/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำร้องขอขยายระยะเวลาโดยอ้างเหตุฐานะยากจนไม่สามารถจะหาเงินค่าธรรมเนียมในการยื่นอุทธรณ์มาวางศาลได้ทัน ถือได้ว่ามี พฤติการณ์พิเศษตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23
โจทก์บรรยายฟ้องว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์มอบให้จำเลยทำกินต่างดอกเบี้ยเงินกู้ เมื่อโจทก์นำเงินไปชำระคืน จำเลยไม่ยอมรับและไม่คืนที่พิพาทให้แก่โจทก์ขอให้บังคับจำเลยรับเงินและคืน น.ส.3 ที่พิพาทกับห้ามเข้าไปเกี่ยวข้องกับที่พิพาท เป็นคำฟ้องที่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 แล้ว สำหรับจำนวนเงินที่กู้ วันเวลากู้เป็นรายละเอียดไม่จำเป็นต้องกล่าวในฟ้อง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของที่ดิน น.ส. 3 เลขที่ 493 ได้ให้จำเลยยึดถือ น.ส. 3 และเข้าทำนาต่างดอกเบี้ยเงินกู้ซึ่งโจทก์กู้ไปจากจำเลย โดยมิได้กำหนดเวลาชำระเงินคืน ครั้นสิ้นฤดูทำนาปี พ.ศ. 2523 โจทก์นำเงินไปชำระให้แก่จำเลย แต่จำเลยไม่ยอมรับและไม่ยอมคืน น.ส. 3 กับที่ดินให้แก่โจทก์ ขอให้บังคับจำเลยส่งคืน น.ส. 3 ที่ดินตามฟ้องแก่โจทก์เมื่อโจทก์ได้ขอปฏิบัติการชำระหนี้แก่จำเลย ห้ามจำเลยและบริวารเข้าเกี่ยวข้องในที่ดินของโจทก์ต่อไป

จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม เพราะมิได้บรรยายว่าโจทก์กู้เงินจำเลยไปเมื่อใด โจทก์ขายที่ดินตามฟ้องและส่งมอบน.ส. 3 ตลอดจนการครอบครองให้แก่จำเลยแล้ว คดีโจทก์ขาดอายุความ ขอให้ยกฟ้อง และพิพากษาว่าจำเลยมีสิทธิในที่พิพาทดีกว่าโจทก์ ห้ามโจทก์และบริวารเข้าเกี่ยวข้อง

โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งว่า ที่พิพาทเป็นของโจทก์มอบให้จำเลยทำนากินต่างดอกเบี้ยเงินกู้ที่โจทก์กู้ไปจากจำเลย ขอให้ยกฟ้องแย้ง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยส่งคืน น.ส. 3 เลขที่ 493 พร้อมที่ดินแก่โจทก์ห้ามจำเลยและบริวารเข้าไปเกี่ยวข้องนับแต่โจทก์ขอชำระหนี้จำนวน 25,000 บาทแก่จำเลย

ก่อนครบกำหนดอุทธรณ์ จำเลยยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ออกไปอีก 15 วัน อ้างเหตุมีฐานะยากจนไม่สามารถหาเงินค่าธรรมเนียมในการยื่นอุทธรณ์มาวางศาลได้ศาลชั้นต้นอนุญาต โจทก์แถลงคัดค้าน ต่อมาจำเลยยื่นอุทธรณ์และวางเงินค่าธรรมเนียมอุทธรณ์ภายในกำหนดที่ได้รับอนุญาต ศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์ของจำเลย โจทก์อุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้ขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ อ้างว่ากรณีถือไม่ได้ว่ามีพฤติการณ์พิเศษ

ศาลอุทธรณ์รวมพิจารณาอุทธรณ์คำสั่งและอุทธรณ์คำพิพากษาของโจทก์จำเลยแล้วพิพากษายืน

โจทก์และจำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่โจทก์ฎีกาว่าศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ให้จำเลยไม่ชอบนั้น เห็นว่า จำเลยได้ยื่นคำขอก่อนสิ้นระยะเวลายื่นอุทธรณ์ และข้ออ้างที่ว่าจำเลยมีฐานะยากจนไม่สามารถหาเงินค่าธรรมเนียมในการยื่นอุทธรณ์มาวางศาลได้ ถือได้ว่ามีพฤติการณ์พิเศษตามมาตรา 23 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งแล้ว แม้จำเลยจะมิได้ยื่นอุทธรณ์ในวันยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาการยื่นอุทธรณ์ ก็มิได้ทำให้พฤติการณ์พิเศษดังกล่าวสิ้นไป ศาลชั้นต้นสั่งชอบแล้ว ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น

สำหรับฎีกาของจำเลยที่ว่า ฟ้องของโจทก์ไม่ได้บรรยายให้ทราบจำนวนเงินกู้วันเวลากู้ เป็นฟ้องเคลือบคลุมนั้น ได้พิจารณาคำฟ้องแล้ว โจทก์กล่าวอ้างในคำฟ้องว่าโจทก์เป็นเจ้าของที่พิพาท ได้กู้เงินแล้วมอบ น.ส. 3 สำหรับที่พิพาทให้จำเลยยึดถือไว้เพื่อเป็นประกันว่าโจทก์จะไม่นำที่พิพาทไปขายหรือจำนองบุคคลอื่นอีก และมอบที่พิพาทให้จำเลยทำกินต่างดอกเบี้ยโจทก์นำเงินกู้ไปชำระให้จำเลยแล้ว จำเลยไม่ยอมรับ ไม่ยอมคืนน.ส. 3 ไม่ยอมเลิกทำนาที่พิพาท ขอให้พิพากษาบังคับจำเลยส่งคืน น.ส.3ที่พิพาท และเมื่อโจทก์ขอปฏิบัติการชำระหนี้ให้แก่จำเลย ห้ามจำเลยเข้าเกี่ยวข้องในที่ดินของโจทก์ต่อไป เป็นคำฟ้องที่แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาของโจทก์และคำขอบังคับ ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้นแล้ว ส่วนจำนวนเงินที่กู้ วันเวลากู้นั้น เป็นรายละเอียดที่นำสืบได้ในชั้นพิจารณาไม่จำเป็นต้องกล่าวในฟ้องเป็นฟ้องที่ชอบด้วยมาตรา 172 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ฎีกาจำเลยข้อนี้ฟังไม่ขึ้น

พิพากษายืน

Share