แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอถอนคำร้องขอที่ให้ศาลแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดินโดยการครอบครองปรปักษ์ภายหลังจากที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าผู้ร้องทิ้งคำร้องขอและจำหน่ายคดีแล้ว การยื่นคำร้องขอถอนคำร้องขอดังกล่าวจึงไม่มีผลที่จะให้ศาลฎีกามีคำสั่งให้ผู้ร้องนำเงินค่าธรรมเนียมมาวางศาลได้อีก
ย่อยาว
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอขอให้ศาลมีคำสั่งแสดงว่าที่ดินพร้อมตึกแถวทั้งสี่แปลงตามโฉนดเลขที่ 4803, 73036, 73037, 73038 ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้อง ให้เจ้าพนักงานที่ดินใส่ชื่อผู้ร้องเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินทั้งสี่แปลงแทนผู้คัดค้านที่ 1 โดยปลอดภาระจำนอง และให้เจ้าพนักงานที่ดินออกใบแทนโฉนดที่ดินทั้งสี่แปลงโดยมีชื่อผู้ร้องเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์
ผู้คัดค้านทั้งสามยื่นคำคัดค้านขอให้ยกคำร้องขอ
ระหว่างพิจารณา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ผู้คัดค้านทั้งสามต่อสู้กรรมสิทธิ์ในตึกแถวพิพาททั้งสี่คูหา เป็นคดีมีทุนทรัพย์เท่ากับราคาตึกแถวพิพาททั้งสี่คูหารวม 6,700,000 บาท ให้ผู้ร้องชำระค่าขึ้นศาลเพิ่มจากทุนทรัพย์ดังกล่าว ผู้ร้องไม่นำเงินค่าธรรมเนียมมาวางศาลภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ผู้ร้องทิ้งคำร้องขอ ให้จำหน่ายคดีจากสารบบความ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174 (2)
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่ผู้ร้องฎีกาว่า ผู้ร้องได้ถอนคำร้องขอขอเฉพาะที่ดินแปลงโฉนดเลขที่ 4803 แล้ว คงเหลือคำร้องขอแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดินเพียง 3 แปลง นอกจากนี้ผู้คัดค้านที่ 1 ก็ให้การต่อสู้กรรมสิทธิ์เฉพาะที่ดินโฉนดเลขที่ 73036 ซึ่งมีราคา 1,700,000 บาท เพียงแปลงเดียว คดีของผู้ร้องมีทุนทรัพย์ที่พิพาทตามราคาที่ดินโฉนดเลขที่ 73036 ดังกล่าว ขอให้ศาลฎีกามีคำสั่งให้ผู้ร้องเสียค่าขึ้นศาลตามจำนวนทุนทรัพย์ 1,700,000 บาท นั้น เห็นว่า ผู้ร้องยื่นคำร้องขอถอนคำร้องขอเฉพาะที่ดินโฉนดเลขที่ 4803 ภายหลังจากที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าผู้ร้องทิ้งคำร้องและจำหน่ายคดีผู้ร้องแล้ว การยื่นคำร้องขอถอนคำร้องขอเฉพาะที่ดินโฉนดเลขที่ 4803 จึงไม่มีผลให้จำนวนทุนทรัพย์ในคดีลดลง จึงต้องนำราคาที่ดินแปลงดังกล่าวมารวมคำนวณเป็นทุนทรัพย์ที่พิพาทด้วย ส่วนที่ผู้ร้องฎีกาว่า ผู้คัดค้านที่ 1 ให้การต่อสู้กรรมสิทธิ์เฉพาะที่ดินโฉนดเลขที่ 73036 จึงไม่อาจนำราคาที่ดินโฉนดเลขที่ 73037 และ 73038 มารวมคำนวณเป็นทุนทรัพย์ที่พิพาทได้นั้น เห็นว่า ผู้คัดค้านที่ 1 ให้การต่อสู้ว่าที่ดินโฉนดเลขที่ 73036, 73037 และ 73038 เป็นกรรมสิทธิ์ของตน คดีจึงมีข้อโต้เถียงเรื่องกรรมสิทธิ์ในที่ดินทั้งสามแปลงดังกล่าว จึงต้องนำราคาที่ดินทั้งสามแปลงดังกล่าวมารวมคำนวณเป็นทุนทรัพย์ที่พิพาทในคดี คำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้ผู้ร้องเสียค่าขึ้นศาลในทุนทรัพย์ตามราคาที่ดินทั้งสี่แปลงจึงชอบแล้ว การที่ผู้ร้องไม่นำค่าธรรมเนียมมาวางศาลภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดจึงเป็นการทิ้งคำร้องขอตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174 (2) ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งจำหน่ายคดีของผู้ร้องและศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิพากษายืนนั้นชอบแล้ว ศาลฎีกาไม่อาจมีคำสั่งให้ผู้ร้องนำเงินค่าธรรมเนียมมาวางศาลได้อีก ฎีกาผู้ร้องฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ