แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่จะเป็นผิดตาม พ.ร.บ.มาตราชั่งตวงวัดหรือไม่ต้องพิจารณาเจตนาประกอบกับการกระทำเป็นเรื่อง ๆ ไป ถ้ามุ่งหมายใช้วิธีขัง+วัดก็เป็นผิด
ย่อยาว
ได้ความตามโจทก์หาจำเลยรับว่า เมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๗๗ จำเลยใช้บีบสังกะสีซึ่งไม่มีตราเครื่องหมายคำรับรองของเจ้าพนักงานตวงถ่านขายให้ผู้อื่นเป็นบีบ ๆ ละ ๑๓ สตางค์ โจทก์จึงฟ้องขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.มาตราชั่งตวงวัด
ศาลเดิมเห็นว่า จำเลยไม่ได้ตวงอย่างมาตราตวงหรือเทียบมาตราตวงอย่างใดจึงยังไม่มีความผิดดังโจทก์หา ให้ยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยใช้เครื่องตวงนอกไปจากที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติ พิพากษาให้ปรับจำเลย ๑ บาทตามมาตรา ๓๑
ศาลฎีกาเห็นว่า การที่จะถือว่าผู้ใดกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ชั่งตวงวัดหรือไม่จะต้องพิเคราะห์ดูเจตนาของผู้นั้นเป็นสำคัญประกอบกับการกระทำเป็นเรื่อง ๆ ไป ถ้ามิได้เจตนาจะค้าขายโดยวิธีชั่งตวงวัดเลย เช่นการขายอย่างเหมาหรืออย่างเป็นชิ้น ๆ อัน ๆ ก็ไม่เป็นผิด เพราะผู้ขายมิได้กระทำการชั่งตวงวัดอย่างใด ๆ แลเห็นว่าความประสงค์ของกฎหมายก็เพื่อให้การค้าขายโดยวิธีชั่งตวงวัดอยู่ในระเบียบแบบแผนอันเดียวกันเพื่อป้องกันการทุจจริตฉ้อฉล จึงเป็นอันว่าผู้ใดค้าขายโดยมุ่งต่อวิธีชั่งตวงวัดก็ต้องชั่งตวงวัดตามวิธีและมาตราในกฎหมาย ในคดีนี้เห็นได้ชัดตามคำรับสารภาพว่าจำเลยค้าขายโดยเจตนามุ่งหมายใช้วิธีตวง แลบีบซึ่งจำเลยมีไว้ใช้เป็นเครื่องตวงไม่ถูกต้องตามกฎหมายไม่มีตราเครื่องหมายรับรองของเจ้าพนักงานตามมาตรา ๑๙ จำเลยก็ต้องมีผิด ศาลอุทธรณ์วางบทกำหนดโทษมาชอบแล้ว จึงพิพากษายืน