แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ตราสารที่ปิดแสตมป์ไม่บริบูรณ์จะใช้เป็นพยานหลักฐานไม่ได้เฉพาะในคดีแพ่งเท่านั้น ไม่รวมถึงคดีอาญา แม้หนังสือมอบอำนาจให้ร้องทุกข์จะปิดอากรแสตมป์ไม่ครบถ้วนบริบูรณ์ตามประมวลรัษฎากรก็เป็นการร้องทุกข์ที่ชอบด้วยกฎหมาย พนักงานสอบสวนมีอำนาจสอบสวน
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2521มาตรา 4, 13, 24, 25, 27, 43, 44, 47, 49 และขอให้สั่งให้ฟิล์มภาพยนตร์ของกลางจำนวน 5 ม้วน ตกเป็นของเจ้าของลิขสิทธิ์กับริบของกลางอื่นและจ่ายค่าปรับกึ่งหนึ่งแก่เจ้าของลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ระหว่างการพิจารณา นายศิริศักดิ์ จึงอนุเคราะห์ ผู้เสียหายขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2521 มาตรา 25(2), 27(1)(2), 43 วรรคสอง, 44วรรคสอง ประกอบด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 90 เป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2521มาตรา 25(2), 43 วรรคสอง ที่มีโทษหนักที่สุด ให้ปรับคนละ20,000 บาท และให้ริบของกลาง เว้นแต่รถยนต์หมายเลขทะเบียน80-1677 ศรีสะเกษ ให้คืนแก่เจ้าของ กับให้ฟิล์มภาพยนตร์ของกลางตกเป็นของเจ้าของลิขสิทธิ์และให้จ่ายค่าปรับกึ่งหนึ่งแก่เจ้าของลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาวินิจฉัยเฉพาะข้อกฎหมายตามที่จำเลยทั้งสองฎีกาว่า หนังสือมอบอำนาจตามเอกสารหมาย จ.1ปิดแสตมป์ไม่บริบูรณ์ไม่ชอบตามประมวลรัษฎากร ถือว่าไม่มีการมอบอำนาจให้ร้องทุกข์ในคดีความผิดต่อส่วนตัว พนักงานสอบสวนจึงไม่มีอำนาจสอบสวนพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ประมวลรัษฎากร มาตรา 118ที่บัญญัติว่า “ตราสารใดไม่ปิดแสตมป์บริบูรณ์จะใช้ เป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่งไม่ได้” นั้นตามบทบัญญัติดังกล่าวตราสารที่ปิดแสตมป์ไม่บริบูรณ์ จะใช้เป็นพยานหลักฐานไม่ได้ เฉพาะในคดีแพ่งเท่านั้นไม่รวมถึงคดีอาญาด้วย เมื่อนายหอมมอบอำนาจให้นายสมชาติ แซ่ตังไปร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีแก่จำเลยทั้งสองตามหนังสือมอบอำนาจเอกสารหมาย จ.1 แม้หนังสือมอบอำนาจดังกล่าวจะปิดอากรแสตมป์ไม่ครบถ้วนบริบูรณ์ตามประมวลรัษฎากรและนายสมชาติได้ไปร้องทุกข์ตามหนังสือมอบอำนาจดังกล่าวก็เป็นการร้องทุกข์ที่ชอบด้วยกฎหมายแล้วพนักงานสอบสวนจึงมีอำนาจสอบสวนคดีนี้
พิพากษายืน