คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3609/2531

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

จำเลยมีชื่อถือภูมิลำเนาในทะเบียนบ้านตามที่โจทก์บรรยายไว้ในคำฟ้องแต่จำเลยไปพักอยู่ที่จังหวัดอื่นโดยมิได้โอนทะเบียนบ้านไปด้วยทั้งในคดีที่จำเลยฟ้องผู้อื่น จำเลยก็ระบุภูมิสำเนาตามทะเบียนบ้านดังกล่าว จำเลยจึงมีภูมิลำเนาตามทะเบียนบ้านนั้นการส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องกับหมายแจ้งวันนัดสืบพยานโจทก์ให้แก่จำเลยตามภูมิลำเนาดังกล่าวโดยการปิดหมายตามคำสั่งศาลจึงเป็นการส่งหมายโดยชอบ เมื่อจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา ก็ไม่มีเหตุที่จะอนุญาตให้พิจารณาคดีใหม่ตามคำขอของจำเลย

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องจากโจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสองว่า จำเลยที่ 1หลอกลวงโจทก์และภริยาให้ยกที่ดินแก่จำเลยทั้งสอง ขอให้เพิกถอนหนังสือสัญญาให้ที่ดินและแก้ชื่อในโฉนดให้กลับมาเป็นของโจทก์และภริยา จำเลยที่ 1 ให้การรับตามฟ้อง จำเลยที่ 2 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา ศาลชั้นต้นพิพากษาให้เพิกถอนชื่อจำเลยทั้งสอง ให้จำเลยทั้งสองไปจดทะเบียนใส่ชื่อโจทก์และภริยาตามเดิม จำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องว่าไม่ได้จงใจขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา ขอให้ศาลสั่งอนุญาตให้จำเลยที่ 2 ยื่นคำให้การและดำเนินกระบวนพิจารณาคดีใหม่ โจทก์คัดค้าน ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วให้ยกคำร้องของจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนจำเลยที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงได้ความจากคำเบิกความของจำเลยที่ 2 ด้วยว่า ที่จำเลยที่ 2 ไปอยู่ที่จังหวัดร้อยเอ็ดนั้นจำเลยที่ 2 ยังมิได้โอนทะเบียนบ้านไป และปรากฏจากคำฟ้องของจำเลยที่ 2 ที่ยื่นฟ้องจำเลยที่ 1 ขอแบ่งแยกที่ดินพิพาทต่อศาลชั้นต้นแห่งเดียวกันเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2527 ซึ่งเป็นระยะเวลาระหว่างการพิจารณาคดีนี้ก็ระบุภูมิลำเนาของจำเลยที่ 2ไว้ว่า บ้านเลขที่ 55 หมู่ที่ 2 ตำบลตลาดขวัญ อำเภอเมืองนนทบุรีจังหวัดนนทบุรี จึงรับฟังได้ว่าภูมิลำเนาของจำเลยที่ 2 ตามหลักฐานที่ปรากฏคือ บ้านเลขที่ 55 หมู่ที่ 2 ตำบลตลาดขวัญ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี ดังนั้นการส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องกับหมายแจ้งวันนัดสืบพยานโจทก์ให้แก่จำเลยที่ 2 ตามภูมิลำเนาดังกล่าวโดยการปิดหมายตามคำสั่งของศาลจึงชอบแล้ว ประกอบกับได้ความว่าในระหว่างการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีนี้ของศาลชั้นต้นจำเลยที่ 2 ได้ยื่นฟ้องจำเลยที่ 1 ต่อศาลชั้นต้นแห่งเดียวกันเพื่อขอแบ่งแยกที่ดินพิพาทซึ่งฟังได้ว่าจำเลยที่ 2 เดินทางไปมาระหว่างจังหวัดร้อยเอ็ดกับจังหวัดนนทบุรี ดังนั้นแม้จะฟังตามข้ออ้างของจำเลยที่ 2 ว่า ในขณะปิดหมายจำเลยที่ 2 ไปอยู่ที่จังหวัดร้อยเอ็ด ก็ต้องถือว่าจำเลยที่ 2 ได้รับหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องกับได้ทราบถึงวันนัดสืบพยานโจทก์โดยชอบแล้ว เมื่อจำเลยที่ 2 มิได้มาศาลในวันนัดสืบพยานโจทก์ ย่อมถือได้ว่าจำเลยที่ 2 จงใจขาดนัดพิจารณาและไม่มีเหตุที่จะอนุญาตให้พิจารณาคดีใหม่ตามคำขอของจำเลยที่ 2 ได้ คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยที่ 2 ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share