คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3608/2537

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองฐานมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย มิได้ขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองฐานเสพและจำหน่ายเฮโรอีนโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ดังนี้ แม้เจ้าพนักงานจะจับจำเลยทั้งสองได้พร้อมกับยึดได้เฮโรอีนจำนวน 115 หลอด ธนบัตรไทยชนิดต่าง ๆ จำนวน70,510 บาท และสมุดฝากเงินธนาคาร 2 แห่ง จำนวน 32,570.05 บาทกับไซลิงค์พร้อมเข็มฉีดยา 5 ชุด ซึ่งโจทก์อ้างว่าเป็นเงินที่จำเลยทั้งสองได้มาจากการจำหน่ายเฮโรอีน กับเป็นอุปกรณ์ในการเสพเฮโรอีนของจำเลยตามลำดับ แต่ไซลิงค์พร้อมเข็มฉีดยาและเงินดังกล่าวก็มิใช่เครื่องมือ เครื่องใช้ หรือวัตถุอื่นซึ่งจำเลยใช้ในการกระทำความผิดตามที่โจทก์ฟ้องดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 102 แห่งพระราชบัญญัติ ยาเสพติดให้โทษฯ แต่อย่างใด ไม่อาจริบได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้อง ขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 8, 15, 66, 97, 102ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ริบของกลาง และเงินฝากธนาคารทั้งสองแห่งจำนวน 32,570.05 บาท และเพิ่มโทษจำเลยที่ 1 ตามกฎหมายกับให้นับโทษจำเลยที่ 1 ติดต่อกับโทษของจำเลยที่ 1 ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 5246/2533 ของศาลชั้นต้นและในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1526/2535 ของศาลอาญาด้วย
จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพ และรับว่าเคยต้องโทษและพ้นโทษตามฟ้องและเป็นบุคคลเดียวกับจำเลยในสองคดีที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อ
จำเลยที่ 2 ให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติ ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง วรรคสองและมาตรา 66 วรรคสอง ให้จำคุกจำเลยที่ 1 ตลอดชีวิต เพิ่มโทษอีกกึ่งหนึ่งตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 97 จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 แต่ส่วนของการเพิ่มเท่ากับส่วนของการลดจึงไม่เพิ่มไม่ลด คงจำคุกจำเลยที่ 1 ไว้ตลอดชีวิต สำหรับจำเลยที่ 2 ให้การรับสารภาพชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ประกอบด้วย มาตรา 53 คงจำคุกจำเลยที่ 2ไว้มีกำหนด 33 ปี 4 เดือน นับโทษจำเลยที่ 1 ต่อจากโทษในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1526/2535 ของศาลอาญาริบของกลางและเงินฝากของจำเลยที่ 1 ที่ธนาคารทั้งสองแห่ง เป็นเงิน 32,570.05 บาท
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลดโทษจำเลยที่ 1 กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ประกอบด้วยมาตรา 53 คงจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 25 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “อนึ่ง ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ริบของกลางคือไซลิงค์พร้อมเข็มฉีดยา 5 ชุด ซึ่งเป็นอุปกรณ์ในการเสพเฮโรอีนของจำเลยทั้งสองและเงินจำนวน 70,510 บาท กับเงินฝากธนาคาร2 แห่ง จำนวน 32,570.05 บาท ที่จำเลยทั้งสองได้มาจากการจำหน่ายเฮโรอีน และศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ในส่วนนี้นั้น เห็นว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองฐานมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายมิได้ขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองฐานเสพและจำหน่ายเฮโรอีนโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ไซลิงค์พร้อมเข็มฉีดยา และเงินดังกล่าวจึงมิใช่เครื่องมือเครื่องใช้ หรือวัตถุอื่นซึ่งจำเลยได้ใช้ในการกระทำความผิดตามที่โจทก์ฟ้องดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 102 แห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 จึงไม่อาจริบได้ แม้จำเลยทั้งสองไม่ได้ฎีกา แต่ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนศาลฎีกาเห็นสมควรหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(5), 246 และ 247ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15”
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกคำขอให้ริบไซลิงค์พร้อมเข็มฉีดยา 5 ชุดและเงินจำนวน 70,510 บาท กับเงินฝากธนาคาร 2 แห่ง จำนวน32,570.05 บาท ของกลาง นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share