คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 36/2522

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยกับพวกบังอาจร่วมกันใช้ด้ามปืนยาวเป็นอาวุธตีทำร้ายร่างกายนายเจ๊ก นายพวง และนายจันทร์หลายครั้งโดยเจตนาจะฆ่าคนทั้งสามให้ตาย ฯลฯ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80, 288, 83 เป็นฟ้องที่ขอให้ลงโทษจำเลยกรรมเดียวแต่ผิดกฎหมายหลายบทเท่านั้น ศาลจะลงโทษจำเลยทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไม่ได้ เพราะเกินคำฟ้อง
ปัญหาเรื่องลงโทษเกินคำฟ้องเป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยแม้คู่ความมิได้ยกขึ้นว่ากล่าวในชั้นฎีกา ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยเองได้
ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าจำเลยกระทำความผิด 3 กระทง ให้ลงโทษจำคุกกระทงละ 15 ปี 2 กระทง ส่วนอีกกระทงหนึ่งจำคุก 10 ปี รวมจำคุก 40 ปี ศาลฎีกาเห็นว่าตามคำฟ้องของโจทก์เป็นฟ้องที่ขอให้ลงโทษจำเลยกรรมเดียวแต่ผิดกฎหมายหลายบทเท่านั้น ดังนี้ แม้โจทก์จะมิได้ฎีกาขอให้เพิ่มเติมโทษจำเลย ศาลฎีกาจะพิพากษาให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดให้จำคุกจำเลยมีกำหนด 20 ปีได้ โดยไม่ถือว่าเป็นการพิพากษาเพิ่มเติมโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 212

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกที่หลบหนีอีก ๑ คน ได้บังอาจร่วมกันใช้ด้ามปืนยาวเป็นอาวุธตีทำร้ายร่างกายนายเจ๊ก นายพวง และนายจันทร์ หลายครั้งโดยเจตนาฆ่า เป็นเหตุให้นายเจ๊ก และนายพวงถึงแก่ความตาย ส่วนนายจันทร์ได้รับบาดเจ็บสาหัส ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๘๐, ๒๘๘, ๘๓
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้อง แต่โจทก์ไม่ได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดกฎหมายหลายกรรมต่างกัน โดยโจทก์ไม่ประสงค์จะให้ลงโทษจำเลยหลายกรรมเรียงกระทงความผิด พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ และมาตรา ๒๘๘ ประกอบด้วยมาตรา ๘๐ ให้ลงโทษตามมาตรา ๒๘๘ ซึ่งเป็นบทหนักให้จำคุกตลอดชีวิต
โจทก์อุทธรณ์ขอให้เรียงกระทงลงโทษจำเลยทุกกรรมเป็นกระทงความผิด
จำเลยอุทธรณ์ขอให้ยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยกระทำความผิดตามที่โจทก์ฟ้อง และว่าโจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยตีทำร้ายนายเจ๊ก นายพวง และนายจันทร์ หลายครั้งโดยเจตนาฆ่าคำว่าหลายครั้งหมายความว่า จำเลยกระทำผิดหลายครั้งต่างกรรมอยู่ในตัวแล้ว ต้องลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิด พิพากษาแก้เป็นว่าให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่านายเจ๊ก และนายพวง ๒ กระทง จำคุกกระทงละ ๑๕ ปี ฐานพยายามฆ่านายจันทร์ ๑ กระทง จำคุก ๑๐ ปี รวมจำคุก ๔๐ ปี
จำเลยฎีกาว่าไม่ได้กระทำผิดตามฟ้อง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่าจำเลยกับพวกร่วมกันใช้พานท้ายปืนยาวตีนายเจ๊กก่อน และตีนายพวง และตีนายจันทร์ หลายครั้งตามลำดับ ซึ่งถือว่าการกระทำของจำเลยกับพวกเป็นการกระทำผิดหลายกรรม แต่ตามคำฟ้องของโจทก์บรรยายว่า จำเลยกับพวกบังอาจร่วมกันใช้ด้ามปืนยาวเป็นอาวุธตีทำร้ายร่างกายนายเจ๊ก นายพวง และนายจันทร์ หลายครั้งโดยเจตนาจะฆ่าคนทั้งสามให้ตาย ฯลฯ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๘๐, ๒๘๘, ๘๓ เป็นฟ้องที่ขอให้ลงโทษจำเลยกรรมเดียวแต่ผิดกฎหมายหลายบทเท่านั้น ศาลจะลงโทษจำเลยทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไม่ได้ เพราะเกินคำฟ้อง และปัญหาเรื่องลงโทษจำเลยเกินคำฟ้องนี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้คู่ความมิได้ยกขึ้นว่ากล่าวในชั้นฎีกา ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยเองได้
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ และมาตรา ๒๘๘ ประกอบด้วยมาตรา ๘๐ แต่ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุดโดยให้จำคุกจำเลย ๒๐ ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share