คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3594/2531

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ลูกจ้างทำหน้าที่เลขานุการกรรมการผู้จัดการของนายจ้างทำงานวันจันทร์ถึงวันเสาร์ระหว่างเวลา 8.30 นาฬิกาถึง 17 นาฬิกาเป็นประจำและได้รับค่าจ้างเป็นรายเดือน นายจ้างมีคำสั่งให้ลูกจ้างไปทำงานเป็นพนักงานต้อนรับผู้โดยสารบนรถยนต์โดยสารและมีฐานะเป็นลูกจ้างรายวันค่าจ้างวันละ 73 บาท ต้องออกไปทำงานนอกสถานที่ในวันจันทร์ อังคาร และพุธ ตั้งแต่เวลาประมาณ 9 นาฬิกาถึง18 นาฬิกาหรือกว่านั้น จึงเป็นคำสั่งเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างอันไม่เป็นคุณแก่ลูกจ้างโดยลูกจ้างมิได้ตกลงยินยอมด้วย คำสั่งจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ลูกจ้างไม่ปฏิบัติตามจะถือว่าลูกจ้างกระทำผิดต่อระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของนายจ้างไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นลูกจ้างประจำของจำเลย ตำแหน่งเลขานุการกรรมการผู้จัดการ จำเลยเลิกจ้างโจทก์ ไม่เป็นธรรม ขอให้จ่ายค่าชดเชย สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า และค่าเสียหายจากการเลิกจ้าง ไม่เป็นธรรม กับออกใบสำคัญแสดงการทำงานแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า จำเลยมีฐานะไม่มั่นคง จึงดำเนินการทุกวิถีทางให้กิจการคงอยู่ จำเลยจึงมีคำสั่งให้โจทก์มาช่วยงานต้อนรับผู้โดยสารบนรถยนต์โดยสาร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานในหน้าที่ของโจทก์เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายและโจทก์เป็นผู้มีความสามารถเหมาะสมโจทก์ไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง จำเลยจึงเลิกจ้างโจทก์ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า และออกใบสำคัญแสดงการทำงานแก่โจทก์ คำขออื่นให้ยก จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า “…ฯลฯ…จำเลยอุทธรณ์ข้อต่อไปว่า ตามหนังสือขออนุมัติโอนพนักงานเอกสารหมาย จ.1 ไม่ใช่คำสั่งให้โจทก์เป็นเลขานุการของจำเลย เพียงแต่โจทก์ทำหน้าที่เลขานุการในบริษัทกรรณสูต เจเนอรัล แอสเซมบลี จำกัด อยู่ก่อนแล้วให้โอนไปรับเงินเดือนกับจำเลยเท่านั้น ไม่เป็นการผูกพันให้โจทก์ต้องทำงานในตำแหน่งเลขานุการกรรมการผู้จัดการตลอดไป หากจำเลยมีความจำเป็นก็มีอำนาจย้ายโจทก์ให้ไปทำงานน้อยลงอันเป็นคุณแก่โจทก์ได้ คำสั่งของจำเลยจึงชอบด้วยกฎหมาย เมื่อโจทก์ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งถึง 3 ครั้ง โจทก์จึงไม่มีสิทธิได้รับค่าชดเชยและสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า ปัญหาข้อนี้ ศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงว่าเมื่อโจทก์มาทำงานกับจำเลย โจทก์ทำหน้าที่เลขานุการกรรมการผู้จัดการของจำเลยในวันจันทร์ถึงวันเสาร์ระหว่างเวลา 8.30 นาฬิกา ถึง17 นาฬิกา เป็นประจำและได้รับค่าจ้างเป็นรายเดือน ส่วนงานใหม่นั้นโจทก์ไปเป็นพนักงานต้อนรับผู้โดยสารบนรถยนต์โดยสารและมีฐานะเป็นลูกจ้างรายวัน วันละ 72 บาท ต้องออกไปทำงานนอกสถานที่ในวันจันทร์อังคาร พุธ ตั้งแต่เวลาประมาณ 9 นาฬิกา ถึง 18 นาฬิกา หรือกว่านั้นจากข้อเท็จจริงดังกล่าว ศาลฎีกาเห็นว่า เป็นเรื่องที่จำเลยมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างอันไม่เป็นคุณแก่โจทก์โดยโจทก์มิได้ตกลงหรือยินยอมด้วย คำสั่งของจำเลยจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย การที่โจทก์ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าวจะถือว่าโจทก์กระทำความผิดต่อระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของจำเลยหาได้ไม่ เมื่อจำเลยเลิกจ้างโจทก์ด้วยเหตุนี้จึงเป็นการเลิกจ้างโดยโจทก์ไม่มีความผิดโจทก์ย่อมมีสิทธิเรียกร้องเอาค่าชดเชยและสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าจากจำเลยได้ คำพิพากษาของศาลแรงงานกลางชอบแล้วอุทธรณ์ของจำเลยทุกข้อนี้ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share