แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ที่ดินที่พลเมืองใช้ร่วมกัน เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินตาม ป.พ.พ. มาตรา 1304 (2) แม้โจทก์จะเสียภาษีบำรุงท้องที่ก็ไม่ได้สิทธิครอบครอง
โจทก์บรรยายฟ้องยืนยันว่า ที่พิพาทไม่ใช่ที่สาธารณะไม่ได้กล่าวล่วงเลยไปถึงว่าหากที่ดินดังกล่าวเป็นที่สาธารณะ แต่โจทก์ก็ครอบครองอยู่จึงมีสิทธิใช้สอยดีกว่าจำเลย ศาลชั้นต้นก็กำหนดประเด็นข้อพิพาทไว้ว่าที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์หรือที่สาธารณะเท่านั้น โจทก์เพิ่มหยิบยกปัญหาข้อนี้ขึ้นอ้างในชั้นฎีกา จึงเป็นเรื่องนอกคำฟ้องโจทก์ ศาลฎีกาไม่อาจยกขึ้นวินิจฉัยได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เป็นเจ้าของผู้ครอบครองที่ดินมีหนังสือแจ้งการครอบครอง จำเลยทั้งห้าร่วมกันนำดินไปถมที่ดินดังกล่าวบางส่วนรวม ๖ แห่ง โดยอ้างว่าเป็นที่สาธารณะ และใช้ที่ดินส่วนที่บุกรุกตลอดมา ขอให้พิพากษาห้ามจำเลยและบริวารเกี่ยวข้องในที่พิพาท ให้ร่วมกันขนย้ายดินที่นำมาถมที่พิพาทออกไปจนกลับสภาพเดิม
จำเลยทั้งห้าให้การว่า โจทก์ไม่มีสิทธิครอบครองที่พิพาทที่พิพาทหมายเลข ๑ เป็นที่สาธารณประโยชน์ ส่วนที่พิพาทหมายเลข ๒ เป็นที่ดินจำเลยฟ้องโจทก์เคลือบคลุม และขาดอายุความ
ก่อนวันสืบพยาน โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ไขฟ้องโดยสละข้อหาในฟ้องเฉพาะที่พิพาทหมายเลข ๒ ศาลมีคำสั่งอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษาห้ามจำเลยและบริวารเข้าเกี่ยวข้องในที่ดินพิพาทเว้นแต่บริเวณทางเดินพิพาทหมายเลข ๑ ตามแผนที่พิพาทท้ายฟ้อง ให้จำเลยร่วมกันขนย้ายดินที่นำมาถมที่พิพาทหมายเลข ๒ ตามแผนที่พิพาท ท้ายฟ้องออกไปจนกว่าที่ดินดังกล่าวจะกลับคืนสภาพเดิม
โจทก์และจำเลยทั้งห้าอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า รับฟังได้ว่า ที่พิพาทตามแผนที่ท้ายฟ้องหมายเลข ๑ เป็นที่ดินที่พลเมืองใช้ร่วมกัน จึงเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๐๔ (๒) การที่โจทก์เสียภาษีบำรุงท้องที่ก็ไม่ทำให้โจทก์มีสิทธิครอบครองได้แต่ประการใด ส่วนที่โจทก์อ้างในฎีกาว่า แม้โจทก์ไม่มีสิทธิครองครองแต่โจทก์ได้ครอบครองมาย่อมมีสิทธิใช้สอยดีกว่าจำเลยนั้น คำบรรยายฟ้องของโจทก์ข้อ ๑ มีว่า โจทก์เป็นเจ้าของผู้ครอบครองที่ดินตามที่ได้แจ้งการครอบครองไว้ ฯลฯ และในข้อ ๒ก็บรรยายว่า ฯลฯ ทั้งนี้โดยจำเลยอ้างว่า ที่ดินส่วนที่จำเลยขนดินเข้าไปถมเป็นที่ดินสาธารณะแต่แท้ที่จริงส่วนนี้ไม่ใช่ที่สาธารณะ แต่เป็นที่ดินส่วนหนึ่งในที่ดินโจทก์ ซึ่งโจทก์ได้ครอบครองเป็นเจ้าของตลอดมา เห็นว่า คำบรรยายฟ้องโจทก์ยืนยันว่าที่พิพาทไม่ใช่ที่สาธารณะ ไม่ได้กล่าวล่วงเลยไปถึงว่าหากที่ดินดังกล่าวใช่ที่สาธารณะก็ตาม แต่โจทก์ครอบครองอยู่จึงมีสิทธิใช้สอยดีกว่าจำเลย ทั้งศาลชั้นต้นก็กำหนดประเด็นข้อพิพาทไว้ว่าที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์หรือที่สาธารณะเท่านั้น โจทก์เพิ่งหยิบยกปัญหาข้อนี้มาอ้างในชั้นฎีกา จึงเป็นเรื่องนอกฟ้องของโจทก์ ศาลฎีกาไม่อาจยกขึ้นวินิจฉัยได้
พิพากษายืน