แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลย่อมไม่สันนิษฐานให้ร้ายแก่จำเลยเกินกว่าคำพะยานหลักฐานในสำนวนวิธีพิจารณาอาญาฟ้องขอให้ลงโทษฐานฆ่าคนตาย ได้ความว่าเป็นแต่ช่วยเขาหามศพไปฝังเท่านั้น ลงโทษไม่ได้
ย่อยาว
ได้ความว่า ด.จำเลยเอามีดฟันถูกน่องผู้ตายล้มลง มีพะยานโจทก์เห็น ส.จำเลยวิ่งเข้าไปที่ผู้ตายเท่านั้น แลต่อมาพะยานได้เห็น ด.กับ ส.ช่วยกันหามศพผู้ตายไปฝังดังนี้
ศาลเดิมแลศาลอุทธรณ์ตัดสินว่า จำเลยทั้ง ๒ คนมีความผิดตาม ม.๒๔๙ ให้จำคุกคนละ ๒๐ ปี
ศาลฎีกาตัดสินยืนตามศาลล่างในข้อที่วางบทกำหนดโทษ ด.จำเลย แต่ส่วน ส.นั้นเห็นว่า โจทก์นำสืบไม่ได้ว่า ส.จำเลยมีสาเหตุโกรธเคืองกับผู้ตายมาแต่ก่อน แลกรณีเหตุก็เกิดขึ้นโดยปัจจุบันทันด่วนระวาง ด.กับผู้ตาย จะฟังว่า ส.ได้สมรู้ร่วมคิดด้วยยังไม่ได้ การที่ ส.วิ่งเข้าไปที่ผู้ตาย อาจวิ่งเข้าไปห้ามปรามก็ได้ เพราะผู้ตายก็เป็นพี่เขยของ ส. จึงยังไม่ควรจะสันนิษฐานให้ร้ายแก่ ส.ว่าวิ่งเข้าไปทำร้ายผู้ตาย แลถึงแม้จะได้ความว่าภายหลังที่ผู้ตายถูกทำร้ายแล้ว ส.จะได้ช่วยเอาศพไปฝังก็ดี ก็ยังไม่พอฟังว่า ส.ได้ฆ่าผู้ตาย เพราะ ส.อาจเห็นเแก่ ด.ซึ่งเป็นญาติกันก็ได้ ซึ่งเป็นความผิดส่วนหนึ่งต่างหาก แต่โจทก์ก็มิได้ฟ้องขอให้ลงโทษในข้อนี้ จึงตัดสินแก้ศาลอุทธรณ์ให้ปล่อย ส.จำเลยไป