แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ที่หัวกระดาษเอกสารที่มีถึงโจทก์ มีเครื่องหมายและชื่อบริษัทจำเลยพร้อมที่อยู่และวันเดือนปีที่ทำขึ้น ต่อจากนั้นมีข้อความว่า”ถึงคุณอัจฉรา ปั้นน้อย พนักงานบัญชี เรื่องให้ตอกบัตรบันทึกเวลาทำงาน หนังสือฉบับนี้เป็นการขอร้องให้คุณบันทึก เวลาทำงานของคุณที่บริษัทออยล์เท็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด โดยใช้เครื่องบันทึกเวลาลงในบัตรทั้งเวลาเริ่มทำงานและเวลาเลิกงาน ขอให้รับบัตรตอกเวลาดังกล่าวได้ที่หัวหน้าของคุณ ลงชื่อ น.รองประธานฝ่ายปฏิบัติการ” แม้เอกสารดังกล่าวใช้คำว่าขอร้อง แต่โดยสภาพและเนื้อความของเอกสารทั้งฉบับ วิญญูชนที่พบเห็นย่อมทราบดีว่า น.รองประธานฝ่ายปฏิบัติการและกรรมการของบริษัทจำเลยซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชา และถือได้ว่าเป็นนายจ้างของโจทก์ ต้องการที่จะสั่งให้โจทก์ตอกบัตรบันทึกเวลาทำงานตามข้อบังคับของจำเลยเพียงแต่น. ใช้ถ้อยคำสุภาพเป็นภาษาอังกฤษซึ่งแปลเป็นไทยว่า ขอร้องอันเป็นรูปแบบหนึ่งของการสั่งให้ทำนั่นเอง ดังนั้น เอกสารดังกล่าวจึงเป็นคำสั่งอันชอบด้วยกฎหมายของนายจ้างแล้ว เมื่อโจทก์ไม่ปฏิบัติตาม ย่อมเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งของนายจ้าง.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นลูกจ้างจำเลย จำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยโจทก์ไม่มีความผิด และเป็นการเลิกจ้างไม่เป็นธรรม ขอให้จำเลยจ่ายค่าชดเชย สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าเงินโบนัสและค่าเสียหายจากการเลิกจ้างไม่เป็นธรรมจำเลยให้การต่อสู้คดี
ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า จำเลยมีคำสั่งเป็นหนังสือให้โจทก์บันทึกเวลาลงในบัตรทั้งเวลาเข้าทำงานและเวลาเลิกงานปรากฎตามเอกสารหมาย ล.2 โจทก์จงใจขัดคำสั่งของจำเลยดังกล่าวซึ่งสั่งโดยชอบด้วยกฎหมายเป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน และจำเลยได้มีหนังสือเตือน 2 ครั้งแล้วโจทก์ยังคงไม่ปฏิบัติตามเช่นเดิม กรณีเป็นการกระทำผิดซ้ำคำเตือน มีเหตุที่จำเลยจะเลิกจ้างโจทก์ได้ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า ที่หัวกระดาษ เอกสารหมาย ล.2 มีเครื่องหมายและชื่อบริษัทจำเลยพร้อมที่อยู่และวันเดือนปีที่ทำขึ้นต่อจากนั้นมีข้อความว่า “ถึง คุณอัจฉรา ปั้นน้อยพนักงานบัญชีเรื่องให้ตอกบัตรบันทึกเวลาทำงานหนังสือฉบับนี้เป็นการขอร้องให้คุณบันทึกเวลาทำงานของคุณที่บริษัทออยส์-เท็กซ์(ประเทศไทย) จำกัด โดยใช้เครื่องบันทึกเวลาลงในบัตรทั้งเวลาเริ่มทำงานและเวลาเลิกงาน ขอให้รับบัตรตอกเวลาดังกล่าวได้ที่หัวหน้าของคุณ คือ คุณสุวรรณา ลงชื่อนางแครอล แมคคอย รองประธานฝ่ายปฏิบัติการ” เห็นว่า แม้เอกสาร ดังกล่าวได้ใช้คำว่าขอร้องแต่โดยสภาพและเนื้อความของเอกสารทั้งฉบับ วิญญูชนที่พบเห็นย่อมทราบดีว่า นางแครอล แมคคอย รองประธาน ฝ่ายปฏิบัติการและกรรมการของบริษัทจำเลยซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาและได้ถือว่าเป็นนายจ้างของโจทก์ ต้องการที่จะสั่งให้โจทก์ตอกบัตรบันทึกเวลาทำงานตามข้อบังคับของจำเลย เพียงแต่นางแครอล ใช้ ถ้อยคำสุภาพเป็นภาษาอังกฤษซึ่งแปลเป็นไทยว่าขอร้องอันเป็นรูปแบบหนึ่งของการสั่งให้ทำนั้นเอง ดังนั้น เอกสารหมาย ล.2 จึงเป็นคำสั่งอันชอบด้วยกฎหมายของเจ้านายแล้ว เมื่อโจทก์ไม่ปฏิบัติตามจึงเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งของนายจ้าง
พิพากษายืน.